โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวนด์รับกองทุน TESG ขายวันแรก แต่ติดหยุดยาว นักลงทุนรอปัจจัยต่างประเทศ โดยคืนนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐฯ และในสัปดาห์หน้า วันที่ 12-13 ธ.ค. จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวนด์ได้บ้าง หลังวานนี้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ย.66 ติดลบมากกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) อยู่ในเกณฑ์ชะลอตัวลง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน รวมถึงยังมีมาตรการช่วยค่าครองชีพจากภาครัฐ ในการตรึงราคา LPG ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมต่ออีก 3 เดือน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.67 คาดเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอย หรือหุ้นค้าปลีก การบริโภค และท่องเที่ยว
อีกทั้งในวันนี้จะมีการเปิดขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund) หรือ THAI ESG ล็อตแรก จำนวน 22 กองทุน จาก 16 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) คาดจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยหากดูสถิติย้อนหลังที่มี LTF พบว่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง มีเงินไหลเข้ากองทุนราว 10,000 ล้านบาท ในเดือน ธ.ค. ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจทำให้ตลาดกลับมาคึกคักขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยบ้านเราจะหยุดยาว โดยจะเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคารที่ 12 ธ.ค.66 ซึ่งระหว่างนี้ให้ติดตามปัจจัยในต่างประเทศ โดยคืนนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐฯ และในสัปดาห์หน้า วันที่ 12-13 ธ.ค. จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด