หุ้นไทยปิดบวก + +6.01 จุด นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุน ชี้ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐชี้ทิศทางดอกเบี้ยและเม็ดเงินที่จะไหลเข้ากองทุน TESG รวมทั้งความคืบหน้ากฤษฎีกาตีความ พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ แนวต้านที่ 1,396 จุด ถัดไปที่ 1,400 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,380 จุด และ 1,370 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 ธ.ค. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +6.01 จุด หรือ +0.43% โดยปิดตลาดที่ 1,389.55 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 38,631.50 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,393.46 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,379.62 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 314 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 182 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 147 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +606.42 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า -454.20 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -116.50 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า-35.72 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,332.10 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,995.69 ล้านบาท ปิดที่ 35.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,734.01 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,580.19 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,569.97 ล้านบาท ปิดที่ 127.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่84.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 2.43%
2.DELTA ปิดที่ 78.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาทหรือ 2.29%
3.BCP ปิดที่44.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25บาท หรือ 2.91%
4.TQM ปิดที่29.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 3.54%
5.BTG ปิดที่24.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.90บาท หรือ 3.85%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่217.00 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.36%
2.PTTEP ปิดที่143.00บาท ลดลง 2.50บาท หรือ 1.72%
3.THG ปิดที่62.50บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 3.10%
4.SCC ปิดที่292.00บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 0.68%
5.KBANK ปิดที่127.50บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 1.16%
ขณะที่ ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,901.56 จุด เพิ่มขึ้น 5.56 จุด หรือ 0.29% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 857.44 จุด เพิ่มขึ้น 1.74 จุด หรือ 0.20% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 404.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.60 จุด หรือ 1.66%
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวออกออกด้านข้าง ไร้ปัจจัยใหม่หนุน ขณะที่ DELTA ดีดขึ้นช่วยหนุนดัชนีให้ปรับตัวบวกเล็กน้อย
แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีพยายามแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางบวก โดยในสัปดาห์นี้นักลงทุนรอติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน พ.ย.ของสหรัฐ เพื่อช่วยประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคาดการณ์ตัวเลขจะฟื้นตัวขึ้นมาที่ราว 1.8 แสนราย สะท้อนภาคแรงงานค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่อาจทำให้กังวลเฟดคงดอกเบี้ยสูงนาน
"ปัจจัยในประเทศที่นักลงทุนต้องติดตามได้แก่เม็ดเงินจากกองทุน TESG ซึ่งตลาดคาดหวังว่าเม็ดเงินลงทุนจะไหลเข้ามาประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไหลเข้ามาเพียง 5 พันล้านบาท และติดตามเงินลงทุนต่างชาติว่าจะไหลกลับมาหรือไม่ รวมทั้งความคืบหน้ากฤษฎีกาตีความ พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน ส่วนกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ ประเมินแนวต้านไว้ค่อนข้างจำกัดที่ 1,396 จุด และถัดไป 1,400 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,380 จุด และแนวรัดถัดไปที่ 1,370 จุด" นายณรงค์เดช กล่าวทิ้งท้าย
