เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ เตรียมจ่ายปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 12 ธ.ค.นี้ หลังงบผลการดำเนินงาน 9 เดือนสร้างออลไทม์ไฮ โกยรายได้ 254.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% และกำไรสุทธิ 54.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เทียบปีก่อน พร้อมประกาศเดินเกมรุกขยายสาขาเพิ่ม หนุนรายได้โตต่อเนื่อง
นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) GFC เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-กันยายน) เติบโตอย่างโดดเด่นสามารถทุบสถิติสูงสุด (ออลไทม์ไฮ) เป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เปิดดำเนินการ โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจากการให้บริการ 254.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.04 ล้านบาท คิดเป็น 28% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 54.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% (YoY) ซึ่งตอกย้ำการป็นหุ้น Growth Stock ของ GFC และจากผลการที่เติบโต ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นวันที่ 12 ธ.ค.นี้
สำหรับแผนการขยายการเปิดให้บริการในโครงการสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และคลินิกสาขาอุบลราชธานี ภายใต้บริษัท จีเอฟซี อุบลราชธานี จำกัด นั้น บริษัทยังคงดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยคาดว่าทั้ง 2 สาขาใหม่ จะแล้วเสร็จปลายไตรมาส 1/2567 หรือต้นไตรมาส 2/2567 ทั้งนี้เพื่อขยายฐานการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากทั้งคนไทย และต่างชาติ ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ที่เข้ารับการรักษาให้มากที่สุด
ทั้งนี้ สำหรับจีเอฟซี สาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 นั้นจะเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของกรุงเทพฯ สู่การยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น เช่น การเปิดรับลูกค้าต่างประเทศ ห้องวิจัยและห้องปฏิบัติการสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ห้องประชุมสัมมนาวิชาการทางการแพทย์ ศูนย์ฝึกอบรมนักเทคนิคการแพทย์ภายในของกลุ่มบริษัท (In-house training) เพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่จีเอฟซี อุบลราชธานี คลินิกสาขาอุบลฯ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยภายใต้การการร่วมลงทุน โดย GFC ถือหุ้นสัดส่วน 60% ส่วนที่เหลือ 40% เป็นกลุ่ม พญ.ฐิติมา ชัยศรีสวัสดิ์สุข ซึ่งเป็นแพทย์ชำนาญการ คลินิกสาขาอุบลฯ จะเป็นคลินิกที่ใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมดกับสาขาพระราม 3 และสาขาพระราม 9 ซึ่งจะเป็นการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมแบบครบวงจร
โดยมีแพทย์เฉพาะทางด้านการเจริญพันธุ์ และนักวิทยาศาสตร์เป็นของตนเอง มีห้องวิจัยและปฏิบัติการสำหรับตัวอ่อน ห้องตรวจ 2 ห้อง ห้องผ่าตัด 1 ห้อง ห้องพักฟื้น 2 เตียง ที่สำคัญคลินิกแห่งนี้ถือเป็นสาขาต่างจังหวัดแห่งแรกที่ GFC เปิดให้บริการซึ่งเชื่อว่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากได้อย่างลงตัวและครบทุกมิติ
อย่างไรก็ตาม จากแผนการขับเคลื่อนดังกล่าวตอกย้ำถึงศักยภาพความแข็งแกร่งในการให้บริการของ GFC มากยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้ง 3 สาขา จะเข้ามาสร้าง New S-Curve ให้อัตราการเติบโตของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น จนสามารถสร้างรายได้สู่ออลไทม์ไฮในอนาคตให้ GFC ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า จากความสำเร็จของ GFC สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช และเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์ผู้มีปัญหามีบุตรยากมากกว่า 23 ปี ทำให้วันนี้ GFC ได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้าในการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของครอบครัวที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยาก เนื่องจากต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมนี้จะวัดกันที่ Success Rate หรืออัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ที่จะเป็นตัวชี้วัดถึงเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการรักษา ซึ่ง GFC ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงกว่าค่าเฉลี่ย