โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวขึ้นตามต่างประเทศ น้ำมันรีบาวนด์-บอนด์ยิลด์ชะลอ โดยหุ้นที่น่าจะรีบาวนด์ต่อเนื่อง คาดว่าเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากราคาน้ำมันตอนนี้อยู่ในระดับทรงตัว นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศติดตามความคืบหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งอยู่ระหว่างรอกฤษฎีกาตีความ พ.ร.บ.กู้เงิน ซึ่งหากไม่เห็นด้วยรัฐบาลต้องกลับไปแก้ใหม่ ซึ่งตลาดคาดว่าต้องปรับจำนวนเม็ดเงินที่ใช้ เนื่องจากจำนวนอาจจะไม่มากอย่างที่คาด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์อัป สอดคล้องกับตลาดต่างประเทศ เนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันรีบาวนด์กลับมา อีกทั้งตัวเลขข้อมูลเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว ส่งผลให้บรรยากาศในสัปดาห์นี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 4.5% ซึ่งน่าจะหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้
นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมเพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่าว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อ และรอติดตามทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 4/66 และไตรมาส 1/67
โดยหุ้นที่น่าจะรีบาวนด์ต่อเนื่อง คาดว่าเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากราคาน้ำมันตอนนี้อยู่ในระดับทรงตัวอยู่ที่ 75-85 เหรียญ ราคาก๊าซในอนาคตจะค่อยๆ ปรับลดลง ส่งผลบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า
นอกจากนี้ ปัจจัยในประเทศติดตามความคืบหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งอยู่ระหว่างรอกฤษฎีกาตีความ พ.ร.บ.กู้เงิน ซึ่งหากไม่เห็นด้วยรัฐบาลต้องกลับไปแก้ใหม่ ซึ่งตลาดคาดว่าต้องปรับจำนวนเม็ดเงินที่ใช้ เนื่องจากจำนวนอาจจะไม่มากอย่างที่คาด
พร้อมทั้งให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,423 จุด