น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือน พ.ย.ปรับตัวขึ้นต่อ คาดการณ์กรอบดัชนีที่ 1,400-1,480 จุด หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) ที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลให้เม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติชะลอไหลออก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
อีกทั้งทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุม 2 ครั้งล่าสุด ขณะที่ผลสำรวจความเห็นนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมครั้งสุดท้ายในเดือน ธ.ค. เมื่อพิจารณาประกอบกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. ต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง และแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 4/66 ลดลงจาก 2.3% ที่เปิดเผยครั้งก่อน โดยแผ่วลงจากขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ สนับสนุนมุมมองคาดการณ์เฟดยุติการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้
ขณะเดียวกัน บอร์ดอีวีเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรืออีวี 3.5 เป็นเวลา 4 ปี คือปี 67-70 โดยรัฐจะให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตามประเภทของรถและขนาดของแบตเตอรี่ ระหว่าง 50,000-100,000 บาทต่อคัน โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายใน พ.ย. และ ครม. เห็นชอบให้ยกเว้นการยื่นวีซ่า (วีซ่า-ฟรี) หรือการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดียและไต้หวันเป็นกรณีพิเศษ เพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน
ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค.66 ยังเห็นทิศทางการฟื้นตัว โดยมีแรงส่งสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ด้านการส่งออกเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวส่งออก
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่จะมีผลกับตลาดหุ้นไทย เช่น วันนี้ (7 พ.ย.) ครม. ลดราคาน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ลง 2.5 บาท/ลิตร วันที่ 20 พ.ย. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/66 วันที่ 29 พ.ย. ประชุม กนง. ครั้งที่ 6/66 ครั้งสุดท้ายของปี วันที่ 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และปัจจัยต่างประเทศ เช่น วันนี้ (7 พ.ย.) จีน รายงานดุลการค้าเดือน ต.ค. 8 พ.ย. นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ และนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุมประจำปี วันที่ 12-13 ธ.ค. กำหนดการประชุมเฟดครั้งสุดท้ายของปี
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนใน 3 หุ้นเด่นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลงซึ่งสะท้อนคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดมีแนวโน้มยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ต้นทุนการเงินของหุ้นกลุ่มการเงินไม่ปรับขึ้นต่อ โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์ ได้แก่ TIDLOR, SAWAD และ MTC
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมทองคำในเดือน พ.ย. ว่า เดือนนี้ยังคงต้องจับตาสถานการณ์สงครามอย่างต่อเนื่อง หลังอิสราเอลใช้กำลังบุกทางพื้นดินเข้าสู่ฉนวนกาซา ซึ่งเราคาดว่าสงครามจะยืดเยื้อ เนื่องจากฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสส่วนใหญ่อยู่ในอุโมงค์ใต้ดินทำให้การเจาะเข้าสมรภูมิดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการรบ
ฝ่ายวิจัยประเมินว่าปัจจุบันตลาดรับข่าวสงครามเป็นหลัก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่งสามารถกดดันทองคำได้เพียงระยะสั้น โดยราคาทองคำมีแรงรีบาวนด์กลับจากเรื่องสงคราม ระหว่างเดือนหากราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,960 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะนำ "ซื้อ"