แซม แบงค์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้ง FTX ถูกตัดสินว่ามีความผิดเมื่อวันพฤหัสบดีจากการฉ้อโกงเงินลูกค้าจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสถานะล้มละลาย ซึ่งขณะนี้กลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาการฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
รอยเตอร์ -คณะลูกขุน 12 คนในศาลรัฐบาลกลางแมนฮัตตันพิพากษาลงโทษ แซม แบงค์แมน-ฟรีด ในข้อหาทั้ง 7 กระทงที่เขาต้องเผชิญ หลังการพิจารณาคดีนานร่วมเดือน โดยอัยการทำคดีที่เขาฉ้อโกงทรัพย์สินจากนักลงทุนมูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์ จากผู้ใช้กระดานซื้อขาย FTX Exchange ด้วยความละโมบ
หลังจากที่ FTX ยื่นฟ้องล้มละลายในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดคริปโตล่มสลายลงอย่างรวดเร็วและทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวของเขาที่ประเมินไว้มูลค่า 26,000 ล้านดอลลาร์หายไป
คณะลูกขุนใช้เวลาเพียงสี่ชั่วโมง ในอ่านคำตัดสิน หลังจากการพิจารณาแบงค์แมน-ฟรีด ซึ่งเขายืนกรานปฏิเสธไม่ผิดในข้อหาฉ้อโกงทั้ง 2 กระทงและ 5 กระทงในข้อหาสมรู้ร่วมคิด
“อุตสาหกรรม crypto อาจเป็นของใหม่ ผู้เล่นอย่าง Sam Bankman-Fried อาจเป็นของใหม่ แต่การฉ้อโกงประเภทนี้มีอายุเก่าแก่ และเราจะไม่ทน” เดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสูงสุดของรัฐบาลกลางในแมนฮัตตัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกศาล
ขณะที่ ลูอิส แคปแลน ผู้พิพากษาเขตของสหรัฐอเมริกา กำหนดโทษจำคุกของแบงค์แมน-ฟรายด์ในวันที่ 28 มีนาคม 2024 ซึ่งระบุว่าเขาอาตต้องเจอโทษจำคุกหลายสิบปีในหลายกระทง โดยมีความผิดในอาชญากรรมสำคัญ 2 กระทง ได้แก่ การฉ้อโกงะุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อผู้ให้กู้และลูกค้าของ FTX และการสมรู้ร่วมคิดอีก 5 กระทง ซึ่งรวมถึงการสมรู้ร่วมคิดในข้อหาฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการฉ้อโกงสินค้าโภคภัณฑ์ , การฉ้อโกงหลักทรัพย์ ,และการฟอกเงิน
ซึ่งมีโทษจำคุกรวมกันมากกว่า 115 ปี
ด้าน มาร์ก โคเฮน ทนายฝ่ายจำเลย กล่าวในแถลงการณ์ว่าเขา "ผิดหวัง" แต่เคารพคำตัดสินของคณะลูกขุน
“นายแบงแมน-ฟรีด เป็นผู้บริสุทธิ์ และเขาจะต่อสู้กับข้อกล่าวหาของเขาต่อไป” โคเฮน กล่าว
ทั้งนี้ แบงค์แมน-ฟรายด์ เตรียมขึ้นศาลในเดือนมีนาคมปีหน้า สำหรับข้อหาชุดที่สองที่อัยการฟ้องเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการติดสินบนในต่างประเทศ และการฉ้อโกงทางธนาคาร