บมจ.อรสิริน โฮลดิ้ง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากเชียงใหม่ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 17 ปี พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 30 ต.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,235 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "ORN"
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ.อรสิริน โฮลดิ้ง เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "ORN" ในวันที่ 30 ตุลาคม 2566
ORN ประกอบธุรกิจการลงทุนถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพย์เพื่อขายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นหลัก โดยมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์บีลีฟ ฮาบิแทท และดิ เอสเคป เป็นต้น และโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวสูงทั้ง Low Rise และ High Rise ภายใต้แบรนด์เดอะ เน็กซ์ ดิ แอสตร้า และอะไรซ์ โดยพัฒนาโครงการให้สอดคล้องตามลักษณะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งลูกค้าชาวไทยและลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งนี้ ORN มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างขายทั้งหมด 18 โครงการ มูลค่าคงเหลือขายรวม 2,244 ล้านบาท และโครงการในอนาคตที่มีแผนจะเปิดดำเนินการภายในปี 2567 จำนวน 9 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,164 ล้านบาท
ORN มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 1,500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,093.5 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 406.5 ล้านหุ้น โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2566 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.49 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 605.69 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,235 ล้านบาท
การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 5.73 เท่า โดยคำนวณจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.26 บาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศ ไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญร่วม
นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORN เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน ทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชิงรุกมากขึ้น สร้างการ เติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนของกลุ่มบริษัท โดย ORN มีแผนที่จะนำเงินไปลงทุนซื้อที่ดินเปล่าในทำเลที่มีศักยภาพ และนำไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทที่อยู่อาศัย รวมถึงใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของภาคเหนือ
ORN มีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะของบริษัท ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะขึ้นกับกระแสเงินสด แผนการลงทุน เงื่อนไขทางกฎหมาย และการจ่ายเงินปันผลนั้นจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มนายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ถือหุ้น 68.83% 2) น.ส.อรอนงค์ อุดมศิริธำรง ถือหุ้น 3.67% และ 3) กลุ่มครอบครัวพาณิชย์พิศาล ถือหุ้น 0.21% โดยทั้ง 3 ลำดับเป็นกลุ่มครอบครัวพี่น้องของผู้ก่อตั้ง
ORN บริษัทประกอบธุรกิจโดยการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบและแนวสูง