ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส อวด “GINKA Charge Point” ระบบ DC ครั้งแรกในงาน Bangkok EV EXPO 2023 ตอบโจทย์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วย 3 หัวชาร์จ กำลังไฟ 120kW ทยอยติดตั้งต้นปีหน้า ลั่นรุกตลาดอย่างจริงจัง ยกระดับการเป็น GINKA Charging Station ตาม Concept จ่ายง่าย ระบบหน้าจออัจฉริยะ ไม่ง้อแอปพลิเคชัน เก็บเครดิต ไม่ต้องจองคิว ส่วนปีนี้มั่นใจติดตั้งรวมได้ยอด 200 จุด และขยายให้ได้ 5,000 จุดในปีหน้า
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ FSMART ผู้นำเครือข่ายอัตโนมัติและการเงินครบวงจร ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ภายใต้ชื่อ “บุญเติม” และผู้ให้บริการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า “GINKA Charge Point” เปิดเผยว่า บริษัทได้นำต้นแบบเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า “GINKA Charge Point” ระบบไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current : DC) มาเปิดตัวในงาน Bangkok EV EXPO 2023 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เป็นครั้งแรก เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพ และความพร้อมในการยกระดับเป็น GINKA Charging Station สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการใช้งานแบบครบวงจรในอนาคต รองรับการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยติดตั้ง GINKA Charge Point ระบบ DC ได้ประมาณต้นปี 2567
โดยเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า GINKA Charge Point ระบบ DC ประสิทธิภาพสูง สามารถอัดประจุไฟฟ้าให้รถยนต์ไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพรองรับการใช้งานด้วยกำลังไฟ 120kW 3 หัวชาร์จ ทั้งหัว DC และ AC type2 โดย GINKA DC รองรับการใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นเช่นเดียวกับระบบ AC ด้วยหน้าจอ LCD ระบบสัมผัส ไม่จำเป็นต้องโหลดแอปพลิเคชันเพื่อจอง หรือจ่ายเงิน เพียงสแกน QR PromptPay หรือวอลเล็ตก็สามารถใช้งานได้ทันที มี SMS แจ้งเตือนเมื่อชาร์จเสร็จ และสามารถเก็บเงินคงเหลือไว้ใน Ginka Credit เพื่อใช้ครั้งต่อไปได้
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทได้ขยายจุดติดตั้ง GINKA ระบบ AC ไปแล้วกว่า 20 จุด ทั้งรูปแบบบริษัทร่วมลงทุน และรูปแบบขายเครื่องให้พร้อมบริการระบบ โดยมีจุดให้บริการในหลากหลายสถานที่เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานของลูกค้าทุกพื้นที่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล คอนโดมิเนียม สนามกอล์ฟ เป็นต้น และล่าสุดบริษัทเตรียมติดตั้ง GINKA Charge Point เพิ่มเติมในโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะดำเนินการได้ทันภายในปีนี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้จำนวนการติดตั้งของ GINKA รวมทั้งหมดของปีนี้ได้ 200 จุด และขยายให้ได้ 5,000 จุดภายใน 1 ปีตามแผนที่บริษัทได้วางไว้
ภายในงานนอกจาก “GINKA Charge Point” ระบบ DC ที่นำมาแสดงแล้ว บริษัทยังได้นำต้นแบบ GINKA Smart Meter มิเตอร์ไฟฟ้า พร้อมระบบรับชำระเงินแบบเติมเงิน ทางเลือกใหม่สำหรับลูกบ้านในคอนโดมิเนียม หรืออพาร์ตเมนต์ที่มีช่องจอดรถส่วนตัว ได้มีเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของตนเองง่ายขึ้น โดยไม่ต้องซื้อเครื่อง wall Charge หรือแยกมิเตอร์ไฟจากส่วนกลางเอง แถมมีระบบเก็บเงินให้ตามจำนวนการใช้งาน ง่ายทั้งต่อลูกบ้านและโครงการ โดยลูกบ้านสามารถเลือกชำระค่าไฟแบบเติมเงินในระบบเพื่อให้โครงการจ่ายไฟตามที่เติมเงินไว้ หรือให้เรียกเก็บเงินค่าไฟจากมิเตอร์ที่แยกออกมา บริการนี้ถือเป็นทางเลือกให้นิติบุคคลที่ดูแลโครงการ หรือเจ้าของพื้นที่จอดส่วนบุคคลสามารถใช้บริการที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายมากขึ้น สำหรับวิธีใช้งานก็ง่าย เพียงผู้ใช้นำหัวชาร์จที่มาพร้อมกับรถยนต์มาเสียบใช้กับ “GINKA Smart Meter” ได้ทันที
สำหรับการเปิดตัว GINKA DC และ GINKA Smart Meter ใน Bangkok EV EXPO 2023 ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมของ GINKA Charge Point ยกระดับความสะดวกสบายที่แตกต่างกันของการใช้งานและเหมาะสำหรับทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จอดรถในห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม พื้นที่สันทนาการ คอนโดมิเนียม โดยทุกบริการของ GINKA Charge Point คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมสร้างความมั่นใจในการติดตั้งและใช้งานด้วยประกันภัยคุ้มครองความเสียหายจากเครื่องชาร์จ และคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือบุคคลจากการใช้เครื่องชาร์จ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ วงเงินรวมสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท* โดยบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด(มหาชน) สำหรับผู้ที่สนใจร่วมลงทุนกับสถานีชาร์จ “GINKA Charge Point” สามารถเข้ามาเยี่ยมชมและติดต่อได้ที่ Hall 7-8 บูท EL20 ตั้งแต่วันที่ 26-29 ตุลาคม 2556 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2812-3555 หรือ Facebook : GINKA Charge Point หรือ Line ID : @ginka และ www.ginkachargepoint.com
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวปิดท้ายว่า การดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี 2566 เชื่อว่าบริษัทจะยังเติบโตโดยรวมได้ 5-10% โดยเดินหน้าในธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า GINKA Charge Point ด้วยกลยุทธ์เชิงรุก และแผนขยายจุดบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อปูทางการนำมาซึ่งรายได้ให้บริษัทสำหรับปีหน้าและปีต่อไป ควบคู่กับการรักษาธุรกิจหลักเติมเงิน-รับชำระเงินอัตโนมัติให้เติบโตให้มากที่สุด ทั้ง 3 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นตู้บุญเติม เคาน์เตอร์แคชเชียร์ และแอปพลิเคชันมือถือ เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจการเงินและสินเชื่อ 8 ธนาคารที่มีการใช้งานต่อเนื่อง รวมถึงผลักดันการถอนเงินด้วยบัตรผ่านตู้บุญเติมให้เกิดขึ้นโดยเร็ว