บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) ประกาศดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ระหว่าง 3.15-4.60% ต่อปี โดยมีหุ้นกู้เสนอขายจำนวน 5 รุ่น ตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทุกระดับ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากทริสเรทติ้ง สะท้อนความแข็งแกร่งของสถานะบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมระหว่างทรูและดีแทค ที่มีความมั่นคงยิ่งขึ้นทั้งในธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล คาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 2-3 และ 6 พฤศจิกายน 2566 โดยมีธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา ซีไอเอ็มบี ไทย และยูโอบี เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ รวมถึงการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet และมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
น.ส.ยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE ชุดใหม่ แก่ผู้ลงทุนเป็นการทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และคาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 2-3 และ 6 พฤศจิกายน 2566 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป โดยบริษัท และหุ้นกู้ TRUE ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A+” แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" (“คงที่”) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566
โดยอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ TRUE ชุดใหม่ทั้ง 5 ชุดมีดังนี้
1.หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี
2.หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.75% ต่อปี
3.หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี
4.หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.35% ต่อปี
5.หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.60% ต่อปี (ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 5)
น.ส.ยุภา กล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้นกู้ที่ออกครั้งนี้มีอายุหุ้นกู้ระหว่าง 1 ปี ถึง 10 ปี เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทุกระดับ นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะสั้นอาจจะลงทุนในรุ่น 1 ปี ถึง 3 ปี 3 เดือน นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะกลางอาจเลือกลงทุนในรุ่น 5 ปี หรือนักลงทุนท่านใดที่ชอบลงทุนระยะยาวและต้องการดอกเบี้ยเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอาจเลือกจะลงทุนในรุ่น 7 ปี หรือ 10 ปี ได้เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินฝากธนาคาร และแม้ว่าเงินฝากธนาคารจะมีความปลอดภัยสูง แต่การลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A+ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และ TRUE ไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้หรือเลื่อนการชำระหนี้อีกด้วย