xs
xsm
sm
md
lg

CPALL เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 รุ่น ระหว่าง 3.55-4.20% ต่อปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





“ซีพี ออลล์” ประกาศดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3 รุ่น อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี และอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี โดยการเสนอขายช่วงที่ 1 จะให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้ CPALL23OA จองซื้อระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2566 และช่วงที่ 2 สำหรับประชาชนทั่วไปจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 26-27 และ 30 ตุลาคม 2566


นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยว่า “ซีพี ออลล์” กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่สำหรับหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 3 รุ่น ดังนี้ รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี โดยช่วงที่ 1 สำหรับผู้ลงทุนที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้ CPALL23OA (ไม่รวมถึงผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลที่เป็นสหกรณ์) คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2566 โดยผู้ถือหุ้นกู้ CPALL23OA สามารถจองซื้อได้ทั้ง 3 รุ่น สูงสุดรวมกันไม่เกินสิทธิของหุ้นกู้ CPALL23OA เดิมที่ถืออยู่ ผ่านธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ส่วนช่วงที่ 2 สำหรับผู้ลงทุนที่เป็นประชาชนทั่วไป คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 26-27 และ 30 ตุลาคม 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 7 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร รวมถึงการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า

“บริษัทฯ มั่นใจว่า หุ้นกู้ดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน ทั้งผู้ถือหุ้นกู้ CPALL23OA ที่ได้รับสิทธิจองซื้อในช่วงที่ 1 โดยสามารถใช้เงินเดิมที่จะได้รับในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 จองซื้อต่อได้เลย และยังสามารถไปจองซื้อพร้อมกับผู้ลงทุนที่เป็นประชาชนทั่วไปในช่วงที่ 2 ได้ด้วย” นายเกรียงชัย กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผู้ลงทุนสนใจหุ้นกู้ซีพี ออลล์ มาจาก หนึ่ง ผลตอบแทนที่น่าพอใจ สอง อายุหุ้นกู้ที่มีให้เลือกตั้งแต่ 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี ซึ่งผู้ลงทุนสามารถวางแผนบริหารจัดการเงินลงทุนให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ต้องการ สาม ช่องทางการเสนอขายที่มีความหลากหลายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ รวมถึงผ่านแอปพลิเคชันที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ลงทุนในยุคดิจิทัล สี่ บริษัทฯ และหุ้นกู้ชุดดังกล่าวยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2566 ที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “Positive” ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของผู้ลงทุนทั่วไปที่จะสามารถเข้าถึงหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูง สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะต่อไปได้เป็นอย่างดี

“ซีพี ออลล์” เป็นผู้ประกอบธุรกิจหลักในการบริหารร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ที่ให้บริการความสะดวกกับชุมชน โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทฯ มีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 14,215 สาขา มีรายได้รวม 112,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ ผ่านกลยุทธ์ O2O เช่น 7Delivery และ All Online ซึ่งได้รับการตอบสนองจากลูกค้าเป็นอย่างดี สำหรับเป้าหมายการขยายสาขาในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการขยายเครือข่ายร้านสาขาอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของชุมชน โดยวางแผนจะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่ในประเทศไทยอีกประมาณ 700 สาขา และมีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาในประเทศกัมพูชาให้ครบ 100 สาขา ภายในปีนี้

ล่าสุด “ซีพี ออลล์” ได้เปิดให้บริการร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” สาขาแรกในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง มีสินค้ากว่า 5,000 รายการ รองรับกับความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารพร้อมทาน รวมถึงสินค้าเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคภายในประเทศและกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ การให้บริการสาขาแรกของ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ใน สปป.ลาว ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้บริโภค ซึ่งจะเอื้ออำนวยให้การขยายสาขาในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านมีโอกาสเติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากการขยายธุรกิจอย่างแข็งแกร่งแล้ว “ซีพี ออลล์” ยังมีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้การบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก FTSE4Good Index ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 (2018-2023) ในกลุ่ม Food Retailers & Wholesalers และยังคงรักษามาตรฐานมีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในทุกมิติ รวมถึงได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing กลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 (2017-2022) และกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (2018-2022) ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ซีพี ออลล์ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้

ช่วงที่ 1 สำหรับผู้ถือหุ้นกู้ CPALL23OA (ไม่รวมถึงผู้ลงทุนสถาบัน และนิติบุคคลที่เป็นสหกรณ์) ได้สิทธิจองซื้อหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น รวมกันไม่เกินสิทธิของหุ้นกู้ CPALL23OA เดิมที่ถืออยู่ คาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2566 ติดต่อ

1.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร.1333

2.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร.0-2111-1111 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next ได้อีก 1 ช่องทาง)

3.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร.0-2777-6784

ช่วงที่ 2 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (ไม่รวมถึงบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้เยาว์) และผู้ลงทุนสถาบัน (ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้นกู้ CPALL23OA) จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท คาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 26-27 และ 30 ตุลาคม 2566 ติดต่อ

1.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร.1333 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Bualuang mBanking ได้อีก 1 ช่องทางในช่วงจองซื้อช่วงที่ 2)

2.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร.1572 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน KMA ได้อีก 1 ช่องทาง)

3.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร.0-2111-1111 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next ได้อีก 1 ช่องทาง)

4.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร.0-2888-8888 ต่อ 819 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)

5.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)** โทร.0-2777-6784 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY ได้อีก 1 ช่องทาง)

6.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.0-2626-7777 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง)

7.บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร.0-2165-5555 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Dime! ได้อีก 1 ช่องทาง)


* ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

** ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

*** ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)


ทั้งนี้ ผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet (สำหรับช่วงที่ 2 เท่านั้น) สามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียด ขั้นตอน และวิธีการสมัคร TrueMoney Wallet Application และวิธีการจองซื้อ พร้อมภาพตัวอย่างประกอบโดยสังเขปได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำเรื่องขั้นตอน และวิธีการสมัครจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร.1240 กด 6


กำลังโหลดความคิดเห็น