xs
xsm
sm
md
lg

สงครามตะวันออกกลางระอุ เศรษฐกิจจีนฟื้น-หนุน BDIพุ่ง “เรือเทกอง” คึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หุ้นเดินเรือคึกต่อ หลังดัชนี BDI พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ อีกทั้งแรงผลักจากสงครามปะทะเดือดระหว่างกลุ่มฮามาส-อิสราเอล รวมถึงดีมานด์ตลาดจีนฟื้นตัวต่อเนื่อง กอปรกับเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการเรือเทกองขนาดใหญ่ โบรกเกอร์ประสานเสียงให้น้ำหนัก บจ. อย่าง "พรีเชียส ชิพปิ้ง-โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ และ อาร์ ซี แอล" สดใส รับผลดีต่อเนื่องยาวไปถึงปี67 ”

หุ้นกลุ่มเดินเรือรับผลดีอีกครั้ง หลังจากปลายปี 2565 การเปิดน่านฟ้าและแทบทุกประเทศทั่วโลกยกเลิกและลดมาตรกรป้องกันการระบาดโควิด-19 คลายลง ส่งผลให้ฟันเฟืองทางเศรษฐกิจเดินหน้า แม้ต้นปี 2566 หุ้นกลุ่มนี้แผ่วลงบ้างเพราะค่าระวางต่ำ ทว่าผลจากปรากฎการเอลนีโญ ส่งผลให้คลองปานามา ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลกแห้งเหือด ส่งผลกระทบการเดินเรือ ประเมินหากสถานการณ์รุนแรงต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือใหม่ คือต้องอ้อมผ่านไปทาง “เคปฮอร์น” แทน ส่งผลให้ค่าระวางเรือพุ่ง ดันดัชนี BDI ปรับขึ้นสู่ระดับ 5.5% ทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน และจะทำให้เป็นบวกช่วงครึ่งปีหลังต่อกลุ่มเดินเรือ จากทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้น ผสานตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่มีทิศทางดีขึ้น คาดจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้อุปสงค์การขนส่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

ล่าสุดปลายเดือนกันยายนนี้ ดัชนีค่าระวางเรือ BDI เพิ่มขึ้น 4.96% ปิดที่ 1,694 จุดแล้ว จากต้นเดือนที่ปรับขึ้น 4.5% อยู่ที่ 1,290 จุด ขณะที่อุปสงค์เรือสินค้าเทกองจะฟื้นตัวตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ปีนี้เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น อีกทั้งมีเหตุการณ์การปะทะระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อน้ำมันแล้วดัชนี BDI มักปรับตัวขึ้นเช่นกัน ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังนี้เชื่อว่าดัชนี BDI ฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายสำนักมองว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทเดินเรือขนาดใหญ่เติบโต และส่วนใหญ่มอง บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) และ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มเดินเรือ พ่วงด้วย RCL หรือ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน)

หุ้นกลุ่มเดินเรือสดใส เหมือนเช้าวันที่ 15 มิ.ย. 65 ที่ดัชนี BDI พุ่งเช้าวันนั้น PSL ปรับขึ้น 5.11% หรือ เพิ่มขึ้น 0.90 บาท แตะ 18.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 215.69 ล้านบาท ส่วน RCL ปรับขึ้น 3.57% หรือ เพิ่มขึ้น 1.50 บาท ขยับไปที่ 43.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 81.62 ล้านบาท และ TTA ปรับขึ้น 3.23% หรือ เพิ่มขึ้น 0.30 บาท แตะระดับ 9.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 68.47 ล้านบาท

ขณะที่ 14 ก.ย. 66 ค่าระวางพุ่งสูงอีกระลอก ส่งผลให้หุ้น PSL บวก 3.21% นำกลุ่มเดินเรือ หรือเพิ่มขึ้น 0.30 บาท ไปแตะ 9.65 บาท มูลค่าซื้อขาย 52.32 ล้านบาท ,TTA บวก 2.44% หรือเพิ่มขึ้น 0.15 บาท แตะ 6.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 11.38 ล้านบาท และ RCL บวก 0.46% หรือเพิ่มขึ้น 0.10 บาท ไปแตะ 21.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 6.48 ล้านบาท

และเมื่อ 9 ต.ค. PSL บวกนำกลุ่มเดินเรือ ด้วยราคาขยับขึ้นไปแตะ 9.40 บาท เพิ่มขึ้น 5.03% หรือ 0.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 108.94 ล้านบาท ส่วน TTA บวก 4.31% หรือเพิ่มขึ้น 0.25 บาท ไปแตะ 6.05 บาท มูลค่าซื้อขาย 26.04 ล้านบาท ล่าสุดเช้า 11 ต.ค. เปิดตลาดหุ้นTTA อยู่ที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.88% , RCL เปิดที่ 21.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาทหรือ 0.47% และ PSL เปิดที่ 9.50 บาท ลดลง 0.05 บาทหรือ 0.52%

โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ซื้อ TTA- PSL



บล.เมย์แบงก์ ออกบทวิเคราะห์ว่า เหตุการณ์การปะทะระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งถือว่ารุนแรงมากที่สุดในรอบ 50 ปี หากย้อนดูเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา พบว่านอกจากน้ำมันแล้วดัชนี BDI มักปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยปรับขึ้น 5.6% ทำจุดสูงสุดของปีและเชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังดัชนี BDI ฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล ช่วยหนุนผลประกอบการให้ บริษัทเดินเรือขนาดใหญ่รับผลดี

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์มองว่าหุ้นกลุ่มเดินเรือและโลจิสติกส์ได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ปรับเพิ่มขึ้นแรงถึง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนหลักในกับกลุ่มเดินเรือ โดยเฉพาะ PSL และ TTA ที่มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา ขณะเดียวกันมองว่าหุ้นในกลุ่มเดินเรือและโลจิสติกส์ราคายังอยู่ในโซนล่างเป็นส่วนใหญ่ หากมองถึงผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 จะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ซึ่งมีการใช้บริการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าต่างๆเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2 ไตรมาส ที่เหลือของปีนี้จะเห็นการเติบโตเมื่อเทียบไตรมาสก่อน

บล. กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เผยว่า ดัชนีค่าระวางเรือ หรือ BDI Index เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2566 ขึ้นไปปิดที่ 1,216 จุด ปรับตัวขึ้น 6.85% จากวันก่อน เพราะรับผลบวกผลกระทบจากเอลนีโญ ส่งผลให้น้ำในคลองปานามาซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลกเริ่มแห้ง ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือเพราะหากรุนแรงอาจต้องมีการปรับเส้นทาง หนุนค่าระวางเรือสูงขึ้น จึงแนะนำ “ซื้อ” PSL ราคาเป้าหมายที่ 14.42 บาท เพราะธุรกิจเดินเรือของ PSL เป็นการขนส่งสินค้าแห้งเทกองแบบไม่ประจำเส้นทาง มีเส้นทางเดินเรือครอบคลุมทั่วโลกในภูมิภาคสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ลาตินอเมริกา-แอฟริกา อินเดีย ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกไกล

โดยคาดปีนี้ยังเป็นปีที่ท้าทาย จากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอ แต่ China reopening อาจช่วยกระตุ้นดีมานด์ในระยะถัดไป โดย Consensus ประเมินกำไรปี 2566 ที่ 2,100 ล้านบาท ซึ่งราคาหุ้นซื้อขายบนอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ 7.5 เท่า และอัตราส่วนของราคาหุ้นต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (P/BV) 0.91 เท่า อยู่ในโซนต่ำ

ขณะ บล.พาย จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าและคาดว่าค่าระวางเรือสินค้าเทกองแห้งจะค่อย ๆ ปรับดีขึ้น ตลอดช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยการฟื้นตัวจะดีขึ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ จากปัจจัยตามฤดูกาล เช่น อุปสงค์การใช้ถ่านหินที่สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน บวกกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวในซีกโลกเหนือที่จะเริ่มต้นในเดือน ก.ค.

ดังนั้น คาดสมดุลอุปสงค์-อุปทานที่ดีขึ้นในปี 2567 จะช่วยหนุนค่าระวางในระดับที่ผู้ประกอบการเรือสามารถทำกำไรได้อย่างมั่นคง เนื่องจากการส่งมอบเรือใหม่ที่จำกัด ในประเภทเรือขนสินค้าประเภทสินแร่ต่าง ๆ หรือ Minor Bulk และโอกาสที่อุปสงค์จีนจะฟื้นตัวขึ้นจากเศรษฐกิจที่เข้มแข็งขึ้น และการที่รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 12.40 บาท ขณะที่รายงานจากข้อมูล Refinitiv consensus จาก 16 โบรกเกอร์ ประเมินรายได้รวมปี 2566 ของ PSL อยู่ที่ 6,867 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,105 บาท ราคาเป้าหมาย 17.45 บาท จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" PSL

ด้าน บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า TTA ในไตรมาส 2 ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล ทั้งการเดินเรือที่ค่าระวางเรือดีขึ้นจากไตรมาสแรก ขณะที่บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TTA จะได้ประโยชน์จากการส่งออกปุ๋ยไปเวียดนามเพิ่มขึ้น หลังจีนซึ่งเป็นคู่แข่งจำกัดการส่งออกปุ๋ย และ PMTA จะดีกว่าครึ่งปีแรก จาก high season จากการเพาะปลูกใน ไตรมาส 4 ปี 2566 ที่เวียดนาม แต่แนวโน้มปี 2567 ฟื้นจากอุปสงค์-อุปทานเรือที่ดีขึ้นและ MML รับรู้backlog ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ MML ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TTA มีเรือเข้าอู่ซ่อมก่อนหน้านี้ กลับเข้าทำงาน และยังรับรู้มูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้น และครึ่งปีหลังคาดจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากฤดูกาลที่สูงขึ้นของเดินเรือและ PMTA ขณะที่ MML รับรู้ Backlog อีก 126 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 4.4 พันล้านบาท จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานปรับเป็น 8.70 บาท ซึ่งข้อมูล Refinitiv consensus ประเมินรายได้รวมปี 2566 ของ TTAอยู่ที่ 22,550 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,670 ล้านบาท ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท


 บล.ลิเบอเรเตอร์ ออกบทวิเคราะห์ แนะ "เก็งกำไร “PSL ”ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 11.30 บาท จากดัชนี BDI ปรับขึ้นต่อเนื่อง และทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน มองเป็นบวกในช่วงครึ่งปีหลังต่อกลุ่มเดินเรือ จากทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้น ผสานตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่มีทิศทางดีขึ้น คาดจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้อุปสงค์การขนส่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

 บล. กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มของ PSL เพราะค่าระวางเรือ ปรับเพิ่มขึ้นช่วงครึ่งหลังปีนี้ จากมาตรการกระตุ้นการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ของจีน และอุปสงค์ที่ ฟื้นตัวขึ้นจากประเทศอื่นๆ คาด PSL จะมีกำไรในไตรมาส 3 เนื่องจากคาดว่าค่าระวางเรือจะสูงกว่าจุดคุ้มทุนที่ 10,000 ดอลลาร์ต่อลำต่อวัน จากค่าระวางเรือที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ "ซื้อ" ด้วย TP ที่ 12.50 บาท อิงด้วย P/BV ที่ 1.03 เท่า (-0.25SD) และ BVPS เฉลี่ยปี 2567-68 ที่ 12.20 บาท ทั้งนี้ราคาหุ้นของคู่แข่งทั่วโลกของ PSL ขณะนี้ซื้อขายด้วย P/BV ที่ 0.8-0.9 เท่า ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ค่าระวาง เรือที่ผันผวน

ทั้งนี้ คาดค่าระวางเรือจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ในช่วง เวลาที่เหลือของปีนี้ The Baltic Dry Index (BDI) และ Baltic Supramax Index (BSI) ฟื้นตัวขึ้น 18% QTD และ 54% QTD มาอยู่ที่ 1,290 และ 1,156 ตามลำดับ ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น จะกระตุ้นอุปสงค์การกลับมาสต๊อกสินค้าในครึ่งหลังปีนี้ และคาด PSL จะบันทึกกำไรในไตรมาส 3/2566 แม้ค่าระวางเรืออ่อนแอ QTD ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า BSI จะฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่งในครึ่งหลังของไตรมาส 3 และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพของ PSL จะช่วยเป็นเกราะป้องกันการขาดทุนของบริษัทในไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะที่ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 2566 ที่ 880 ล้านบาทไว้


 ขนส่งทางทะเลคึก หนุนดีมานด์เรือเทกองโต 

นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ PSL เผยว่าคาดการณ์ความต้องการขนส่งสินค้าเทกองทางทะเล ช่วงครึ่งหลังแนวโน้มฟื้นตัวสอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการการเติบโตของ GDP โลกทั้งปี 2566 ที่ 3% ส่วน GDP ของจีนจะเติบโต 5.2% ทำให้ยังคงคาดการณ์ว่าปริมาณเรือเทกองของกองเรือสินค้าเทกองทั่วโลกทั้งปี 2566 จะเติบโตราว 3.6% แต่จะเริ่มชะลอตัวลงเหลือราว 1.8% ในปี 2567 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการปล่อยคาร์บอนใหม่ภายใต้กรอบการประเมินประสิทธิภาพเชื้อเพลิงของเรือ "EEXI" และ "CII" ขณะความต้องการขนส่งสินค้าแห้งเทกองโลกทั้งปี 2566 และปี 2567 จะหดตัวลงราว 2-2.5% เทียบปีก่อน ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการขนส่งสินค้า กับปริมาณเรือสินค้าเทกองแห้งจะเข้าสู่ภาวะสมดุลในปี 2567 ซึ่งจะเป็นปัจจัยลดความผันผวนของดัชนีค่าระวางเรือ (TC rate) ได้อย่างมีนัยสำคัญ

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่า ล่าสุด บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ MML ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ TTA ถือหุ้นอยู่ 58.2 % ได้สัญญางานบริการนอกชายฝั่งใหม่หลายรายการทั้งในประเทศไทย ในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ สะฮารา และสหราชอาณาจักร โดยมีมูลค่ารวมกัน 485 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะเมอร์เมด กำลังก้าวหน้าไปอีกขั้นในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะบริษัทฯชั้นนำในด้านงานบริการนอกชายฝั่ง ซึ่ง เมอร์เมด เชื่อว่าความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซัพพลายเออร์และลูกค้า จะช่วยสร้างความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่ในการขยายธุรกิจหลักของบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงาน

ขณะที่ประเมินภาพรวม กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองช่วงครึ่งหลังปี 2566 คาดจะปรับตัวที่เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกอง อีกทั้งความต้องการใช้งานการขนส่งทางเรือยังขยายตัวขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่งปัจจุบันมีงานในมือที่รอส่งมอบ (Backlog) 337 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดไตรมาส 3 และ 4 จะส่งมอบงานในมือประมาณ 131 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับหางานใหม่เพิ่มเข้ามา ส่วนธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรช่วง 6 เดือนหลังปี 2566 นี้ มองว่าจะขยายตัวที่ดีกว่าครึ่งปีแรกเพราะสู่ช่วงไฮซีซันการเพาะปลูกของเวียดนาม ส่งผลดีต่อปริมาณการจำหน่ายปุ๋ยเชิงผสมและปุ๋ยเชิงเดี่ยวของบริษัทให้เพิ่มขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น