xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตร - เฟดคงดอกเบี้ยสูง ฉุดหุ้นไทยปิดร่วง -15.01 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวลดลงกว่า -15.01 จุด นักวิเคราะห์เผย เกิดแรงเทขายในหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างประเทศ แม้จะมีแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยเข้าพยุง ประเด็นหลักมาจากความกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ปรับตัวขึ้น อีกทั้งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,490 – 1,480 จุด และแนวต้าน 1,500 – 1,505 จุด แนะนักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์นี้ด้วย ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 28 กันยายน 2566 ปรับตัวลดลง 15.01 จุด หรือ -1.00% โดยปิดตลาดที่ 1,482.14 จุด มูลค่าซื้อขาย 59,089.20 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นไทยในวันนี้ดัชนีปรับตัวผันผวนและปรับตัวลงแรงในช่วงบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,505.69 จุด ในทิศทางขาลงที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,481.52 จุด ทำจุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 124 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 148 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 370 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่านักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,704.14 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +751.10 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,701.87 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -753.37 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,488.07 ล้านบาท ปิดที่ 170.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,883.37 ล้านบาท ปิดที่ 101.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,559.46 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,977.50 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,950.70 ล้านบาท ปิดที่ 124.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KCE ปิดที่ 55.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 4.76%
2.BH ปิดที่ 267.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 0.75%
3.HANA ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 2.50%
4.DELTA ปิดที่ 104.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 0.97%
5.TCAP ปิดที่ 50.25บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาทหรือ 1.52%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

1.SCC ปิดที่ 299.00บาท ลดลง 6.00 บาทหรือ 1.97%
2.SCB ปิดที่ 101.00บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 1.94%
3.EGCO ปิดที่ 120.00บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 1.64%
4. MTC ปิดที่ 35.00บาท ลดลง 1.75 บาทหรือ 4.76%
5.CPN ปิดที่ 63.25 บาท ลดลง 1.75 บาทหรือ 2.69%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,027.24 จุด ลดลง -21.02 จุด หรือ -1.03% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 909.88 จุด ลดลง -9.87 จุด หรือ -1.07% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 450.70 จุด ลดลง -3.24 จุด หรือ -0.71%

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลง โดยยังอยู่ในกรอบแนวรับ 1,490 – 1,500 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยบวก นักลงทุนความกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(บอนด์ยีลด์)พุ่งขึ้นและดอกเบี้ยยังคงระดับสูงนาน ซึ่งกดดันสินทรัพย์เสี่ยงหรือหุ้นฟื้นตัวได้ค่อนข้างจำกัด

ขณะที่แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้มองว่ายังคงไซด์เวย์ออกด้านข้าง เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่แม้ว่าจะมีการรายงานตัวเลข GDP ของสหรัฐที่เป็นตัวเลขสุดท้ายของไตรมาส 2/66 แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญ นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อโดยจะมีการรายงานตัวเลขในวันศุกร์นี้ โดยประเมินกรอบดัชนีพรุ่งนี้ แนวรับ 1,490 – 1,480 จุด และแนวต้าน 1,500 – 1,505 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น