นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน คาดตลาดแนวราบเติบโตระดับ 3-5% รับกับกำลังซื้อ ประเมินการปรับขึ้นค่าแรง ต้องมองหลายๆด้าน หาจุดสมดุล อาจจะส่งผลต่อราคาบ้านได้ และการลงทุนจากต่างประเทศ ขณะที่ 3 สมาคมย้ำอสังหาฯ ไตรมาสสุดท้ายของปียังสดใส มั่นใจผู้บริโภคตอบรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 เป็นอย่างดี วางเป้ายอดขากว่า 3,500 ล้านบาท
นายวสันต์ เคียงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดแนวราบว่า มั่นใจยอดขายในปี 2566 จะเติบโตประมาณร้อย 3-5 ส่วนยอดโอนกรรมสิทธิ์อาจจะติดลบเล็กน้อย เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ยอดขายที่จะมาส่งผลต่อยอดโอนแนวราบในครึ่งหลังของปีนี้ชะลอตัวลง โดยปัจจุบันสัดส่วนของแนวราบต่อคอนโดมิเนียมจะอยู่ที่ร้อยละ 60:40
ขณะที่นโยบายของรัฐบาลต่อการปรับขึ้นค่าแรงไม่ว่าจะเป็น 400 บาท หรือ 600 บาทภายในปี 2570 นั้น ขอให้ขึ้นในอัตราที่เหมาะสมและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพราะอาจจะมีผลต่อธุรกิจและเจ้าของกิจการที่อาจจะพิจารณาเรื่องการใช้แรงงาน รวมถึงต้องมองระยะยาวเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศที่อาจจะมีการเปรียบเทียบการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน
"จะขึ้นแค่ไหนทุกอย่างมีจุดสมดุลอยู่ การขึ้นค่าแรง แต่ไม่มีการพูดถึงการควบคุมราคาสินค้า ต่อให้ขึ้นค่าแรง แต่ราคาสินค้าขึ้นมากกว่าค่าแรง ต้องมองหลายด้าน ไม่ใช่มองด้านเดียว ถ้ามองด้านเดียวเกิดมีปัญหาจะหมุนกลับมากระทบประชาชน แต่ยอมรับว่า อาจมีต่อราคาบ้านที่อาจต้องปรับขึ้นแต่ไม่มากประมาณไม่เกินร้อยละ 5 อย่างไรก็ดี นายกฯ เข้ามาต้องการบริหารเศรษฐกิจให้ดี เราต้องให้ทางรัฐบาลเดินหน้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจไปก่อน ถ้าภาพรวมดี อสังหาริมทรัพย์ฟื้นก็ดีตามไปด้วย แต่ขออย่าสร้างกฎระเบียบอะไรเพิ่มขึ้น" นายวสันต์ กล่าว
ด้าน ดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 กล่าวถึงสัญญาณบวกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า ตอนนี้เมืองเปิดแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐมีและจะมีอย่างต่อเนื่อง กำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด คอนโดมิเนียม ส่วนที่ขายดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ คือ คอนโดมิเนียม รองลงมาคือบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และบ้านแฝด
สำหรับตลาดอสังหาฯ ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.) แนวราบลดลง คอนโดฯเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดครึ่งปีหลัง มุมมองส่วนตัวและจากผู้ประกอบการมองว่าธุรกิจอสังหาฯ มีแนวโน้มที่สดใส เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน กำลังซื้อกลับมา อีกทั้งโปรโมชันต่างๆ ของแต่ละบริษัทที่จะออกมาช่วงปลายปี เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนนี้จะมาช่วยกระตุ้นยอดขายช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็นช่วงจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 จัดโดยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ส่งท้ายปี ซึ่งเป็นงานที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้จักกันดี เป็นอีเวนต์ใหญ่ที่สุดของวงการอสังหาฯ มีทุกอย่างครบ มีแบรนด์ผู้ประกอบการชั้นนำให้เลือกมากมาย ที่พร้อมใจกันขนเอาโปรโมชันดีๆ มานำเสนอภายในงาน ทั้งยังมีโปรโมชันของงานมหกรรมเอง
งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยครั้งนี้จะชูคอนเซ็ปต์ “Property Solutions” ครบจบทุกอย่างในงานเดียว เป็นการยกระดับการจัดงานเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทุกดีมานด์ และทุกช่วงวัยของผู้บริโภค ซึ่งในงานจะมีทั้งหมด 150 บริษัท นำสินค้ามานำเสนอรวมมากกว่า 1,000 โครงการจากทั่วประเทศ
"ทางคณะกรรมการจัดงานคาดว่าจะมีคนมาเดินงานตลอดทั้ง 4 วันอยู่ที่ 50,000-80,000 คน มีมูลค่าการซื้อขายในงานมากกว่า 3,500 ล้านบาท โดยคาดว่าคอนโดฯ จะเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ขณะในการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด จะมีชาวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมงานประมาณ 20% จึงคาดว่ายอดขายคอนโดมิเนียมจะสูงขึ้นตามไปด้วย"