EGCO ประกาศซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ 3 แห่ง สัดส่วนการถือหุ้น 50% ใน “พอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าคัมแพซ” (Compass Portfolio) กำลังผลิตรวม 1,304 เมกะวัตต์ หวังสร้างการเติบโตให้เอ็กโก กรุ๊ป สอดคล้องกลยุทธ์การสร้างผลตอบแทนและกำไร และ หนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในอนาคต ด้าน โบรกฯ คาดมูลค่าดีลกว่า 2 หมื่นลบ. หนุนกำไรเพิ่มปีละ 600-800 ลบ. พร้อมจ่ออัพราคาเป้าหมาย-กำไร EGCO เล็งปรับเพิ่มเป้าปีนี้เป็น 210-215 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 200 บาท
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า เอ็กโก คัมแพซ ทู แอลแอลซี (EGCO Compass II, LLC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัทในเครือโลตัส อินฟราสตรักเชอร์ พาร์ทเนอร์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 เพื่อเข้าถือหุ้นสัดส่วน 50% ใน “พอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าคัมแพซ” ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 3 แห่ง ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา
ประกอบด้วยมาร์คัส ฮุก เอ็นเนอร์ยี่ แอลพี (มาร์คัส ฮุก) เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 912 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่นอกเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ในขณะที่มิลฟอร์ด พาวเวอร์ แอลแอลซี (มิลฟอร์ด) เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 205 เมกะวัตต์ และไดตัน พาวเวอร์ (ไดตัน) เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 187 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์
โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ใกล้กับศูนย์กลางของเมืองใหญ่ที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงมาก ได้แก่ ฟิลาเดลเฟีย บอสตัน และพรอวิเดนซ์ โดยพื้นที่เหล่านี้มีข้อจำกัดอย่างมากในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ และมีนโยบายมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจำเป็นต้องมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่เสริมความมั่นคงให้แก่ระบบ
“พอร์ตโฟลิโอคัมแพซ” ได้รับประโยชน์จากการที่โรงไฟฟ้ามาร์คัส ฮุก มีสัญญาระยะยาวในการขายกำลังผลิตส่วนใหญ่ให้แก่ลองไอส์แลนด์ พาวเวอร์ ออธอริที (The Long Island Power Authority - LIPA) และขายกำลังผลิตส่วนที่เหลือในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าพีเจเอ็ม (PJM) ในขณะที่โรงไฟฟ้ามิลฟอร์ดและโรงไฟฟ้าไดตันขายกำลังผลิตให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้านิวอิงแลนด์ (ISO-NE) โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ยังขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าในพื้นที่ที่แต่ละโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ คือ PJM และ ISO-NE
หวังสร้างการเติบโตกลุ่มเอ็กโก้ในอนาคต เปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
นอกจากนี้ การลงทุนใน “พอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าคัมแพซ” จะสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้นให้แก่เอ็กโก กรุ๊ป ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการเข้าซื้อหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนและกำไรได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานของโลกไปสู่พลังงานสะอาดในอนาคต ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นจะสำเร็จหลังจากดำเนินการตามเงื่อนไขต่าง ๆ ในการปิดรายการซื้อขายแล้วเสร็จ
โบรกฯ แนะนำซื้อ เล็งเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 210-215 บ.
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่ามองว่าดีลดังกล่าวเป็นเรื่องโครงการใหม่ของ EGCO ที่ยังไม่ได้มีรายละเอียดหรือข้อสรุปออกมามากนัก แต่เบื้องต้นประเมินว่ามูลค่าดีลนี้น่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับมูลค่ากิจการของ EGCO ในปัจจุบัน
ทั้งนี้การเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าใหม่ทั้ง 3 แห่งในสหรัฐฯคาดว่าจะช่วยหนุนให้กำไรของ EGCO ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 600-800 ล้านบาทต่อปีหรือคิดเป็นสัดส่วน 6-8% จากปีนี้ที่เดิมคาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 8,864 ล้านบาท โดยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หลังเตรียมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปีนี้เป็น 210-215 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 200 บาทต่อหุ้น
