'เคหะสุขประชา' เตรียมเสนอแผนต่อรัฐบาล สานต่อโครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพ แจงโครงการค้างท่อรอ รมต.ใหม่ ทั้งแผนรับโอนบ้านเอื้ออาทรจาก กคช.6,000 หน่วย เข็นอีก 16 โครงการ สร้างบ้านเช่าพร้อมอาชีพและตลาดรวมอีก 6,000 หน่วย เผยเอกชนรายใหญ่พร้อมนำที่ดินแปลงงามใน จ.ลำพูน และเชียงราย เข้าร่วมโครงการ คาดทั้งหมดอาจต้องใช้เงินระดมทุนรองรับเบื้องต้น 4,000 ล้านบาท
นายพิษณุพร อุทกภาชน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) หรือ K-HA บริษัทในเครือการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ที่มีการร่วมทุนกับภาคเอกชน โดยมีภารกิจในการทำโครงการ "บ้านเช่าพร้อมอาชีพ" ซึ่งนอกจากการสร้างบ้านที่อยู่อาศัยให้ได้ 100,000 หน่วยแล้ว ยังได้มอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนผ่านอาชีพหลักทั้ง 6 ประการ ได้แก่ เกษตรกรรม ปศุสัตว์ ตลาด งานบริการ ศูนย์การค้าปลีกค้าส่ง และอุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยทางเคหะสุขประชายังคงเดินหน้าในการดูแลครอบครัวเปราะบางได้ที่อยู่อาศัยง่ายและสะดวกขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้มอบหมายไว้
โดยทาง บมจ.เคหะสุขประชา ได้เตรียมนำเสนอผลงานที่ดำเนินการมาแล้ว รวมถึงสรุปแผนงานและรายละเอียดต่างๆ ที่จะต้องเร่งดำเนินการ ผ่านไปการเคหะแห่งชาติ เพื่อนำเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
แผนงานที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐที่จะต้องมีการพิจารณาได้แก่ 1.การเพิ่มจำนวนโครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพ รองรับการสร้างรายได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการรับโอนบ้านเอื้ออาทร จากการเคหะฯ ที่ค้างอยู่ประมาณ 20,000 หน่วย โอนมา บมจ.เคหะสุขประชา ในเบื้องต้น 6,000 หน่วย เพื่อนำมาปรับปรุง (รีโนเวต) ใหม่และเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาร่วมโครงการ และนำรายได้คืนให้การเคหะฯ ซึ่งส่วนนี้ต้องมีงบประมาณมารองรับการรีโนเวตใหม่ แปลงที่เราสนใจ เช่น ใน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 400-500 ห้อง และที่จังหวัดเชียงใหม่ เหมาะทำเป็นศูนย์ผู้สูงอายุ เป็นต้น
2.ทำโครงการบ้านเคหะสุขประชาเพิ่มเติม โดยที่อยู่ในแผนงานเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ มีโครงการต้นแบบเพิ่มอีก 3 พื้นที่ ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชา วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โครงการบ้านเคหะสุขประชา ลำลูกกาคลอง 12 จ.ปทุมธานี และโครงการบ้านเคหะสุขประชาธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม และยังมีอีก 13 โครงการ เตรียมทำเคหะสุขประชา เช่น พื้นที่ในจังหวัดปทุมธานี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สระบุรี กำแพงเพชร นครสวรรค์ และระยอง เป็นต้น เพื่อสร้างบ้านพร้อมอาชีพให้ครอบคลุมกลุ่มครอบครัวเปราะบางมากยิ่งขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนให้เกิดความยั่งยืน ทั้งนี้คาดว่าจะมีบ้านเช่าพร้อมอาชีพรองรับรวมทั้ง 16 โครงการ รวมประมาณ 5,000-6,000 ห้อง
นอกจากนี้ กำลังเจรจากับทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในการศึกษานำที่ดินใกล้สถานีคลองบางไผ่ และสถานีบางหว้า มาศึกษาการพัฒนาเมือง (TOD) เช่น โครงการแนวสูง เป็นต้น
โดยก่อนหน้านี้ ทาง บมจ.เคหะสุขประชา ได้ส่งมอบ 2 โครงการต้นแบบให้ผู้ได้สิทธิแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย รวม 572 หน่วย ซึ่งบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง ขณะนี้ได้พัฒนาพื้นที่ตลาดเสร็จแล้ว เพื่อรองรับการจ้างงานและสร้างอาชีพให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชน และเร่งก่อสร้างโครงการเคหะสุขประชาร่มเกล้า โดยทางโรงพยาบาลนวมินทร์ มีความสนใจที่จะมาสร้างโรงพยาบาลรองรับเบื้องต้นประมาณ 30 เตียง
"ความชัดเจนจัดตั้งรัฐบาล และการมีนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เชื่อมั่นว่าประเทศไทยน่าจะดีขึ้น และโครงการที่เราทำอยู่ทำเพื่อสังคม ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่มาได้ชื่อ การเริ่มต้นใหม่ อาจจะช้าและไม่ทันในการรันโครงการ" นายพิษณุพร กล่าว
สำหรับในแผนงานที่ร่วมกับภาคเอกชนนั้นจะเป็นดำเนินการภายใต้ชื่อโครงการเคหะของแต่ละจังหวัด ซึ่งมีเอกชนหลายแห่งแสดงความสนใจเข้ามา เช่น จังหวัดลำพูน ที่เจ้าของที่ดินเสนอมา 88 ไร่ อยู่ใกล้พระธาตุดอยติ เอกชนในจังหวัดเชียงราย เสนอมา 55 ไร่ เข้าร่วมโครงการ ซึ่งอยู่ อ.เวียงชัย และอยู่ใกล้โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง เป็นต้น
"เราพยายามเร่งดำเนินการทุกอย่าง เรื่องการจัดหาแหล่งเงิน ทางเราศึกษาและหาวิธี เช่น การทำโครงการเคหะสุขประชา อาจใช้รูปแบบการออกพันธบัตร (บอนด์) มาดำเนินการคาดล็อตแรกประมาณ 2,500 ล้านบาท ขายเจาะจงนักลงทุน คาดให้จบในปีนี้และระดมทุนได้ ส่วนโครงการของภาคเอกชนคาดใช้งบไม่ต่ำอีก 1,500 ล้านบาท แต่ขณะนี้เริ่มมีนักธุรกิจชาวจีน (นายทุน) สนใจเสนอเป็นแหล่งเงินสนับสนุนโครงการ"