เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป โชว์ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกทำรายได้รวม 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% และมีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากการรับรู้รายได้ของกลุ่มธุรกิจ MUO หนุนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ตอกย้ำความสำเร็จการลงทุนเชิงกลยุทธ์จากการเข้าซื้อ MUO ขณะกลุ่มธุรกิจ Content มียอดขายที่ดีต่อเนื่องจากตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้ผลงานไตรมาส 2 ทำกำไรสุทธิพุ่ง 106%
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ สามารถขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยทำรายได้รวม 1,500 ล้านบาท เติบโต 51% และมีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวมาจากกลุ่มธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล หรือ MUO ที่สร้างการเติบโตที่ดีจากโครงสร้างรายได้ 9 ด้าน ที่บริษัทฯ เริ่มทยอยรับชำระเงินตามสัญญาในด้านต่างๆ ของธุรกิจ MUO อย่างมีนัยสำคัญ รวมเป็นเงินกว่า 230 ล้านบาท ซึ่งช่วยส่งเสริมกระแสเงินสดที่ดี
โดยจะทยอยรับรู้รายได้ดังกล่าวในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ตลอดจนความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ Content ที่มีจุดแข็งจากการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ดังระดับโลกในรูปแบบ Output Deal ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชมเพื่อจำหน่ายให้แก่คู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศที่สนับสนุนการขยายตัวของภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 (เมษายน-มิถุนายน) มีรายได้รวม 568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และมีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
การเติบโตทั้งในแง่รายได้และกำไรสุทธิไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปีนี้ ที่มีปัจจัยสำคัญจากการเข้าซื้อกิจการองค์กรนางงามจักรวาล เพื่อนำมา Synergy กับ Ecosystem ของกลุ่ม JKN Group เพื่อส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง ตอกย้ำให้เห็นถึงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ Global Content Commerce Company ที่ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนงานครึ่งปีหลังจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของ JKN จากแผนงานขยายกลุ่มธุรกิจ MUO ไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ภายใต้กลยุทธ์ 3P: Pregent Plantform Product ผ่านโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย เช่น การร่วมมือกับพันธมิตร หรือการให้สิทธิใช้แบรนด์มิสยูนิเวิร์สที่ได้รับค่าตอบแทนจากการให้สิทธิ ช่วยสร้างการเติบโตและมีรายได้ประจำและสม่ำเสมอ เนื่องจาก ‘มิสยูนิเวิร์ส’ เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ทรงพลังและได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก สามารถต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์แอนด์สปา และทัวร์ท่องเที่ยว Inbound-outbound เพื่อทำตลาดไปทั่วโลก โดยคาดว่าเริ่มทำตลาดได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 นอกจากนี้ จะมีรายได้จากการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 72 ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายปีนี้อีกด้วย จึงมั่นใจว่าเป้าหมายการเติบโตปีนี้จะทำได้ 3,400 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้