ตามที่ได้มีผู้นำเสนอข้อมูลบิดเบือนพาดพิง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับวิธีการจัดซื้อที่ดินของแสนสิริ ว่า มีการดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้สาธารณชนเข้าใจคลาดเคลื่อน และทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงว่า การสรรหาและจัดซื้อที่ดินของแสนสิริถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน บริษัทฯ มีแนวทางการพิจารณาการจัดซื้อที่ดินอย่างชัดเจนผ่านการประเมินความเสี่ยงในหลากหลายมิติ
ก่อนการอนุมัติจัดซื้อที่ดินของแสนสิริ แต่ละแปลงจะมีทีมสรรหาที่ดินที่มีความเชี่ยวชาญ ทำการตรวจสอบข้อมูลขั้นต้นและข้อมูลรายละเอียดของที่ดินที่ได้รับการเสนอขาย โดยมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการอย่างละเอียด ทั้งในเชิงมหภาค การขยายตัวของเมือง ประชากร และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงพิจารณาราคาตามกลไกของตลาด ทำเลที่ตั้งของที่ดิน การสำรวจตลาดคู่แข่ง เงินลงทุน กำไรที่คาดว่าจะได้รับอย่างละเอียด ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
กรณีที่ดินทองหล่อ (KHUN by YOO)
แสนสิริ และบริษัทย่อยของแสนสิริ กรรมการและผู้บริหารของบริษัทดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ขายที่ดินแปลงดังกล่าว
แสนสิริซื้อที่ดินทองหล่อในปี 2559 ในราคา 1,100,000 บาทต่อตารางวา จากบริษัทเอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมเทียบเคียงกับราคาตลาด
ตามที่มีการกล่าวอ้างว่า แสนสิริซื้อที่ดินราคาแพง ควรจะซื้อแค่ 565 ล้านบาท หรือเท่ากับตารางวาละ 650,000 บาทเท่านั้น เป็นการพูดที่ไม่สมเหตุผล เพราะไม่มีเจ้าของที่ดินรายใดที่มีที่ดินอยู่ในซอยทองหล่อจะขายที่ดินในราคาดังกล่าว
อีกทั้งบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งเป็นธรรมดาที่เจ้าของที่ดินจะต้องขายที่ดินที่มีกำไร คงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมขายในราคาตารางวาละ 650,000 บาท ที่ต่ำกว่าราคาตลาดอย่างมาก
บริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแสนสิริ ไม่เคยให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด โดยมีหลักฐานที่อยู่ในสัญญาจำนองฉบับกรมที่ดิน (เอกสารแนบ) ว่าการจำนองดังกล่าวเป็นการจำนองเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินของผู้ขายเพื่อให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญาให้ครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเคลียร์ผู้เช่าในที่ดินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยปลอดจากภาระผูกพันใดๆ และเมื่อผู้ขายได้ดำเนินการครบถ้วนเสร็จสิ้นแล้ว แสนสิริจึงได้ดำเนินการรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวและจัดทำเป็นโครงการอาคารชุดที่มีการขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าแล้ว
ทั้งนี้ แสนสิริอยู่ในระหว่างพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำการบิดเบือนข้อมูล และทำให้ชื่อเสียงแสนสิริได้รับความเสียหาย แสนสิริขอยืนยันว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้ จึงขอชี้แจงมา ณ ที่นี้
พิกัด Google Maps : 13.732922, 100.582330
หรือสามารถ : คลิกที่นี่