ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ทำกำไรงวดครึ่งปีแรก 64.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.81% และรายได้จากการขายและให้บริการ 8,790 ล้านบาท ขานรับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) รวมทั้งปริมาณขายก๊าซเป็นขาขึ้น ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปช่วยหนุน ปูพรมลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงาน พร้อมประเมินภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มั่นใจปี 66 ยอดขายก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศโตตามเป้าแตะ 800,000 ตัน ส่วนรายได้คาดไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566) ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 64.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 8,790.54 ล้านบาท รายได้อื่นๆ เท่ากับ 110.85 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 344.38 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นผลจากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Commercial ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาก๊าซ LPG ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 165 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งปัจจุบันได้เซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้ว 10 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566
สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังเชื่อว่ายังขยายตัวอยู่ในทิศทางดี โดยการเติบโตยังคงมาจากความต้องการใช้ก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจพลังงาน ทำให้มั่นใจยอดขายปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 800,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 775,000 ตัน และส่งออก จำนวน 25,000 ตัน ส่วนรายได้รวมคาดว่าเติบโตไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
"ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมก๊าซ LPG ฟื้นตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ที่สำคัญสามารถบริหารการจัดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของกำไรและรายได้ครึ่งปีแรกเติบโตอยู่ในทิศทางบวก ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาส และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่ตั้งไว้" น.ส.ชมกมล กล่าว