เผือกร้อน 'แอชตัน อโศก' คอนโดฯ หรูมูลค่า 6,481 ล้านบาท กับการหาทางออก หลังเจ้าของอาคารหลังโครงการยืนยันไม่ขาย ไม่เดือดร้อน ทำธุรกิจอยู่มา 20-30 ปี เผยก่อนหน้าได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างโครงการมาแล้ว จับตาหากต้องซื้ออาคารทุกคูหา ต้องใช้เงินสูงถึง 4,000 ล้านบาท
หลังจากที่ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก มูลค่าโครงการ 6,481 ล้านบาท เนื่องจากการก่อสร้างในเรื่องของทางและออกโครงการไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายอาคาร เกี่ยวกับความกว้างของถนน 12 เมตร ซึ่งโครงการพัฒนาโดยบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด (บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท มิตซุย ฟุโดซัง จากประเทศญี่ปุ่น) ทำให้ขณะนี้ บริษัท อนันดาฯ อยู่ระหว่างการหารือและวางแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกับหน่วยงานรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยก่อนหน้านี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เสนอให้มีการซื้อตึกแถวด้านหลังโครงการ เพื่อใช้ทำเป็นทางออกนั้น
ล่าสุด กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อเจ้าของตึกแถวด้านหลังโครงการแอชตัน อโศก ยืนยันที่จะไม่ขาย เพราะทุกคนล้วนมีฐานะดีอยู่แล้ว และที่ผ่านมา ในช่วงที่เกิดการก่อสร้างโครงการ ผู้อยู่อาศัยได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งผู้อยู่อาศัยทำธุรกิจแถวนี้มาถึง 20-30 ปี
อย่างไรก็ตาม หากมาพิจารณาเรื่องราคาประเมินตึกแถวในย่านนี้ เบื้องต้นราคาราว 250 ล้านบาท และเมื่อมาคำนวณเพื่อทำให้ทางเข้าและออกได้ตามข้อกฎหมายแล้วนั้น อาจจะต้องกว้านซื้อถึง 16 คูหา รวมเป็นเงินราว 4,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าโครงการ แอชตัน อโศก ประมาณ 6,481 ล้านบาท ดังนั้น หากจะซื้ออาคารทุกอาคารจะต้องพร้อมใจขายทั้งหมด ห้ามมีฟันหลอไม่ได้เลย
ทั้งนี้ จากเคสของแอชตัน อโศก ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ขยายวงกว้างไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงลูกค้าที่ซื้อโครงการ และอาจจะเป็นภาพเชิงลบต่อนักลงทุน ดังนั้น คงต้องมาติดตามกันว่า การจะมาแก้ปมเรื่องทำให้โครงการแอชตัน อโศก ถูกต้องจะมีทางออกอย่างไร ซึ่งยังมีประเด็นของพื้นที่ติดกับห้างสรรพสินค้าดังที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน จะสามารถนำมาเป็นทางเลือกของการปัญหาคอนโดฯ หรูได้หรือไม่