หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -18.41 จุด โบรกฯชี้ ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงจากแรงขายหุ้นบิ๊กแคปออกมากดดันดัชนี ทำให้ดัชนีย่อตัวลงซึ่งเป้นไปตามตลาดต่างประเทศ รับความกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรหรือ Bond yield ปรับตัวขึ้น ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดยังคงแกว่งตัวไซด์ มองแนวต้านที่ 1,505 จุด และแนวรับที่ 1,475 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 ก.ค. 2566 ปรับตัวลดลง 18.41 จุด หรือ -1.22% โดยปิดตลาดที่ 1,490.46 จุด มูลค่าซื้อขาย 45,718.25 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,505.88 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,486.49 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน105 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 139 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 394 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,517.47 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +575.74 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -3,164.84 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า-928.37 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,142.49 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,940.27 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,659.79 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.PHG มูลค่าการซื้อขาย 1,606.11 ล้านบาท ปิดที่ 16.30 บาท ลดลง 4.70 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,389.19 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. TQM ปิดที่ 26.50บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 1.92%
2.STA ปิดที่ 17.30บาท เพิ่มขึ้น 0.30บาทหรือ 1.76%
3.JMT ปิดที่ 36.50บาท เพิ่มขึ้น 0.25บาทหรือ 0.69%
4.GULF ปิดที่ 46.00บาท เพิ่มขึ้น 0.25บาทหรือ 0.55%
5.TCAP ปิดที่ 49.00บาท เพิ่มขึ้น 0.25บาทหรือ 0.51%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 323.00 บาท ลดลง 4.00 บาทหรือ 1.22%
2.KTC ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 6.09%
3.KBANK ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 2.23%
4.BBL ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.89%
5.SAWAD ปิดที่ 47.25 บาท ลดลง 2.50 บาทหรือ 5.03%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,026.16 จุด ลดลง -26.22 จุด หรือ -1.28% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 914.49 จุด ลดลง -11.78 จุด หรือ -1.27% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 456.53 จุด ลดลง -4.24 จุด หรือ -0.92%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จากปัจจัยกดดันของความกังวลในการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ตลาดเกิดความกังวล และเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัรรัฐบาลสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น (Bond yield) ทำให้เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้น
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่เข้ามากดดันดัชนี และทำให้ดัชนีย่อตัวลงมาหลุด 1,500 จุด แม้ว่าปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม หลังจากผ่านการโหวตประธานสภาฯและการายงานตัวเลขเงินเฟ้อไปแล้ว
"แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีแกว่งไซด์เวย์ โดยในคืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่บ่งชี้เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยให้แนวต้าน 1,505 จุด แนวรับ 1,475 จุด" นายชัยพร กล่าวทิ้งท้าย