ดีโอดี ไบโอเทค แจงกลุ่มบริษัทในเครือ SHT ร่วมมือกับ PACCAN ส่งออกสารสกัดกัญชง-กัญชา และผลิตภัณฑ์ทิงเจอร์สำหรับหยดใต้ลิ้นให้ผู้ประกอบการทางการแพทย์ญี่ปุ่นเป็นรายแรกของไทย พร้อมมีกลุ่มผู้ประกอบการยาจากเกาหลี สหรัฐอเมริกา และรัสเซียเข้ามาเยื่ยมชมโรงงานของ SHT อย่างต่อเนื่อง ส่อแววดีมานด์เพิ่ม ขณะยอดขาย AWL พุ่ง มั่นใจหุนผลงานปีนี้เด่น
นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ ได้แก่ บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด หรือ SHT ซึ่งบริษัทย่อยของ DOD ดำเนินธุรกิจโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชา และพืชสมุนไพรไทย ที่ได้ใบอนุญาตในการผลิตยา ภายใต้มาตรฐาน GMP/ Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme (PIC/S) ซึ่งเป็นมาตรฐานโรงงานผลิตยาตามมาตรฐานสากล จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และนับว่าเป็นบริษัทเอกชนรายแรกที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ CBD ทางการแพทย์ ภายใต้มาตรฐาน PIC/S และกลุ่มพันธมิตรเครือข่ายอย่างบริษัท แปซิฟิค แคนโนเวชั่น จำกัด (PACCAN) ซึ่งดำเนินธุรกิจกัญชาและสมุนไพรครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึงยังเป็นผู้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ CBD (Cannabidiol) ส่วนผสมน้ำมันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) และจากโปรตีนเมล็ดกัญชงที่มีสาร Tetrahydrocannabinol (THC) ยังคงเดินหน้าวางกลยุทธ์เพื่อต่อยอดธุรกิจกัญชง-กัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด SHT ได้ผลิตสารสกัดกัญชง-กัญชาให้ทาง PACCAN เพื่อส่งออกสารสกัดจากดังกล่าวให้กลุ่มผู้ประกอบการทางการแพทย์ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำไปใช้กับกลุ่มลูกค้าเชิงการแพทย์เท่านั้น ซึ่งการส่งออกสารสกัดกัญชา-กัญชงในครั้งนี้ถือว่า PACCAN ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรเครือข่าย DOD เป็นรายแรกของประเทศไทยที่มีการส่งออกสารสกัดไปประเทศญี่ปุ่น สำหรับกลุ่มประเภทสารสกัดที่ส่งออก ประกอบด้วย 1.กลุ่มสารสกัดทั้งหมดของกัญชง-กัญชา (น้ำมัน CBD (Cannabidiol) และ THC (Tetrahydrocannabinol)
และ 2.ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มน้ำมันกัญชาชนิดหยด หรือทิงเจอร์สำหรับหยดใต้ลิ้น ใช้สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน ผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับ และผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กินอาหารไม่ได้ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ นายต่อลาภ กล่าวยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มบริษัทผู้ประกอบยาเพื่อการแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย เข้ามาเยี่ยมชมโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชาของ SHT อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโรงสกัดของบริษัทได้รับใบอนุญาตมาตรฐานโรงงานผลิตยาระดับมาตรฐานสากลจากสำนักงาน อย.ที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ CBD ทางการแพทย์
“ผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวยังมีมุมมองเชิงบวกว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ของทวีปเอเชียที่ได้รับการปลดล็อกในเรื่องของกัญชง-กัญชา แม้ว่าต่อมาประเทศอื่นๆ มีการปลดล็อกต่อจากไทยก็ตาม แต่ด้วยประเทศไทยเริ่มมีการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง และเริ่มลงมือทำก่อน จึงเป็นข้อได้เปรียบ อีกทั้งประเทศไทยยังตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับหลายประเทศ เนื่องจากประเทศไทยเป็น HUB (จุดศูนย์กลาง) ในการผลิตเรื่องของกัญชง-กัญชา ประกอบกับ SHT มีโรงงานที่ตรงตามเกณฑ์ของลูกค้า เพราะเป็นโรงงานที่เป็น medical grade ทำให้การนำเข้าสินค้าไปประเทศลูกค้าสามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วย”
ขณะที่ตลาดทางการแพทย์ในประเทศไทยยังคงมีดีมานด์การใช้สารสกัดกัญชง-กัญชา ทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมา SHT มีการส่ง material ที่เป็นสารสกัดจากกัญชง-กัญชาไปให้ทั้งสถานพยาบาลและผู้ประกอบการคลินิกภายในประเทศหลายแห่ง เพื่อจะนำไปใช้รักษาทางการแพทย์
“ในปีนี้ DOD คาดว่าบริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) เข้ามาหนุนให้ DOD กลับมาเทิร์นอะราวนด์ได้ โดยแบ่งเป็นรายได้จาก AWL คาดว่าจะเข้ามาในปีนี้กว่า 250 ล้านบาท โดยปัจจุบันการ AWL มี 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1.AWL DHA algal oil 2.AWL Colostrum เพิ่มภูมิต้านทาน และ 3.AWL Royal Jelly นมผึ้งออสเตรเลีย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเสริมระบบภูมิคุ้มกัน”