หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -15.47 จุด นักวิเคราะห์ชี้เกิดแรงเทขายในหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่มีความแน่นอน ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดยังแกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยประเมินแนวรับที่ 1,510-1,500 จุด และแนวต้านที่ 1,530-1,535 จุด แนะนักลงทุนเกาะติดถ้อยแถลงประธานเฟดต่อนโยบายการเงินในครึ่งหลังปี 66
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 21 มิ.ย.66 ปรับตัวลดลง -15.47 จุด หรือ -1.01% ดดยปิดตลาดที่ 1,522.12 จุด มูลค่าซื้อขาย 43,091.32 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงต่อจากวานนี้ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,534.73 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,517.51 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 75 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 114 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 458 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -3,576.94 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -71.06 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,372.56 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +1,275.44 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BLC มูลค่าการซื้อขาย 2,026.66 ล้านบาท ปิดที่ 7.20 บาท ลดลง 3.30 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,579.43 ล้านบาท ปิดที่ 96.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,425.44 ล้านบาท ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
4.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,250.05 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท ลดลง 4.00 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,219.51 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL ปิดที่163.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ+0.93%
2.TIPH ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 2.78%
3.MINT ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 1.46%
4.BCP ปิดที่36.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 1.41%
5.TISCO ปิดที่ 97.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 0.52%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 325.00 บาท ลดลง 6.00 บาทหรือ 1.81%
2.CPN ปิดที่ 64.25 บาท ลดลง 4.25 บาทหรือ 6.20%
3.EA ปิดที่ 57.75 บาท ลดลง 4.00 บาทหรือ 6.48%
4.ADVANC ปิดที่ 216.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.37%
5.BH ปิดที่ 226.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.31%
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,057.76 จุด ลดลง -21.45 จุด หรือ -1.03% ดัชนี SET50 ปิดที่ 925.93 จุด ลดลง -8.68 จุด หรือ -0.93% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 466.04 จุด ลดลง -8.15 จุด หรือ -1.72%
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องรับแรงขายหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนยังรอปัจจัยบวกใหม่เข้ามา อีกทั้งกังวลทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐ เนื่องจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในคืนวันนี้ และในคืนพรุ่งนี้ก็จะแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐ ตลาดคาดอาจส่งสัญาณขึ้นดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น จากก่อนหน้านี้เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งปีนี้ รวมถึงเจ้าหน้าเฟดหลายรายยังออกมาหนุนให้ขึ้นดอกเบี้ยส่งผลกดดันต่อการลงทุน
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นภาพชัดเจนจากตลาด TFEX วานนี้นัต่างชาติขายสุทธิรวม -60,685 สัญญา ทำสถิติขายสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และมีสถานะคงค้างเพิ่มขึ้นมา สืบเนื่องมาจากการเมืองในประเทศที่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังมีความไม่แน่นอน
"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าตลาดจะแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ มีโอกาสอ่อนตัวลงได้ต่อ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา รวมถึงตลาดหุ้นจีนจะปิดทำการ 2 วัน (22-23 มิ.ย.) เนื่องในเทศกาลไหว้ขนมบ๊ะจ่าง (ขนมจ้าง) ทำให้วอลุ่มน่าจะเบาบางต่อเนื่อง ให้แนวรับไว้ที่ 1,510-1,500 จุด และแนวต้าน 1,530-1,535 จุด" น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าว