หุ้นไทยปิดตลาด +26.29 จุด โบรกฯชี้ เม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าหุ้นไทย หลังเทขายทำกำไรไปก่อนหน้านี้มากพอสมควรแล้ว เผย Valuation ขณะนี้หุ้นไทยไม่แพง กอรปกับเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,547 จุด และแนวต้านที่ 1,563 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +26.29 จุด หรือ +1.71% โดยปิดตลาดที่ 1,559.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,630.89 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีฟื้นตัวขึ้ โดดเด่นกว่าภูมิภาค โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,559.50 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,530.55 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 345 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 155 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 143 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,611.10 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,048.82 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -278.78 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -283.50 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AH มูลค่าการซื้อขาย 2,996.31 ล้านบาท ปิดที่ 36.50 บาท ลดลง 2.75 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,723.80 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,656.24 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,988.66 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,918.58 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่144.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.48%
2.DELTA ปิดที่103.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาท หรือ 2.99%
3.BBL ปิดที่163.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50บาท หรือ 1.56%
4.CPN ปิดที่68.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 3.00%
5.PTTEP ปิดที่152.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.33%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่233.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.43%
2.TCAP ปิดที่51.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.45%
3.FORTH ปิดที่30.75บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.60%
4.TQM ปิดที่31.00บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.80%
5.HANA ปิดที่46.25บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.54%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,104.43 จุด เพิ่มขึ้น 41.57 จุด หรือ 2.02% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 945.95 จุด เพิ่มขึ้น 18.95 จุด หรือ 2.04% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 496.60 จุด เพิ่มขึ้น 2.64 จุด หรือ 0.53%
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้น โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียค่อนข้างมาก จากเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) เริ่มกลับมา เห็นได้จากวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิรวมกว่า 1,700 ล้านบาท และยังเปิด Long ในตลาด TFEX กว่า 10,000 สัญญา หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อปัจจัยการเมืองในประเทศมากขึ้น เนื่องด้วยกว่าจะเห็นการจัดตั้งรัฐบาลยังต้องใช้ระยะเวลาอีกสักระยะหนึ่ง หรือคาดอยู่ในเดือน ส.ค.66 ขณะเดียวกัน Valuation ของตลาดหุ้นไทยก็ไม่ได้แพงจาก EPS ที่ 100 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ปัจจัยต่างประเทศก็อยู่ระหว่างรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยตลาดคาดเฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ น่าจะพักตัว หลังปรับตัวขึ้นแรงในวันนี้ แต่เป็นการพักตัวเพื่อไปต่อ ให้แนวรับที่ 1,547 จุด และแนวต้าน 1,563 จุด