หุ้น บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) ดิ่งลงฟลอร์เป็นวันที่ 4 หลังเจอ Money Game ดันราคาจูงใจให้ใช้สิทธิแปลงภาพ OTO-W1 ก่อนทุบลงมาอย่างต่อเนื่อง
จุดเริ่มต้นจากราคาหุ้น OTO ในช่วงปลาย พ.ค.66 ขยับตัวสูงขึ้นร้อนแรง ประกอบกับมีการชี้ช่องให้นักลงทุนเห็นส่วนต่างราคาแปลง OTO-W1 เป็นหุ้น OTO ที่สูงถึง 7-8 บาท บางช่วงสูงถึง 10 บาท ทำให้มีแรงเก็งกำไรแห่เข้ามาเพื่อแปลงสิทธิ ซึ่ง OTO-W1 กำหนดช่วงวันใช้สิทธิ 24-30 พ.ค.66 อัตรา 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิ 3 บาท/หุ้น
ราคาหุ้น OTO ในวันที่ 23 พ.ค.66 ก่อนวันใช้สิทธิ ดีดขึ้นไปปิดที่ 19.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท (+1.03%) ส่วน OTO-W1 ปิดที่ 7.35 บาท ลดลง 0.30 บาท (-3.92%) หากนำ OTO-W1 มาแปลงเป็นหุ้น OTO เท่ากับจะมีต้นทุน 10.35 บาท (7.35+3.00) เห็นส่วนต่างกับหุ้นแม่ถึง 9.25 บาท
ต่อมา ราคา OTO ในวันที่ 24 พ.ค. ลดลงเล็กน้อยมาที่ 19.50 บาท และในวันที่ 25-29 พ.ค.บวกต่อเนื่อง (25 พ.ค. ปิดที่ 21.00 บาท บวก 1.50 บาท (+7.69%) 26 พ.ค.ปิดที่ 23.00 บาท บวก 2.00 บาท (+9.52%) และ 29 พ.ค. ปิดที่ 23.60 บาท บวก 0.60 บาท (+2.61%) ทำให้ส่วนต่างขยับชึ้นไปอีก
จากนั้นราคาเคลื่อนไหวแกว่งอยู่ในช่วง แต่ในวันที่ 30 พ.ค.ราคากลับพลิกมาร่วงติดฟลอร์มาปิดที่ 16.50 บาท ลบ 7.10 บาท (-30.08%) จากนั้นวันรุ่งขึ้น 31 พ.ค.พลิกมาบวก ปิดที่ 17.40 บาท บวก 0.90 บาท (+5.45%) ในช่วง 1 -9 มิ.ย. ราคาลดลงเล็กน้อย โดยในวันที่ 9 มิ.ย.ราคาปิดที่ 16.20 บาท ลบ 0.60 บาท (-3.57%)
แต่ในวันที่ 12-14 มิ.ย. ราคาหุ้น OTO จมดิ่งฟลอร์ 3 วันรวด
ส่วนราคา OTO-W1 เห็นแรงเก็งกำไรในวันที่ 18-19 พ.ค.โดย 18 พ.ค.ปิดที่ 6.70 บาท บวก 0.80 บาท (+13.56%) และ 19 พ.ค. ปิดที่ 7.80 บาท บวก 1.10 บาท (+16.42%) จากนั้นราคาปรับตัวลงผสมแรงแรงเก็งกำไร จนมารูดลงหนักต่อเนื่องตามหุ้นแม่ โดย 12 มิ.ย.ปิดที่ 4.28 บาท ลบ 0.72 บาท (-14.40%) 13 มิ.ย. ปิดที่ 3.60 บาท ลบ 0.62 บาท (-14.49%) และ 14 มิ.ย.ปิดที่ 1.82 บาท ลบ 1.84 บาท (-50.27%)
ทั้งนี้ OTO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 24-30 พ.ค.66 มีจำนวนหุ้นที่เกิดจากการใช้สิทธิถึง 233,236,514 หุ้นซึ่งนับว่าเป็นจำนวนมาก จากหุ้นจดทะเบียนทั้งหมดกับตลาดหลักทรัพย์ มีจำนวน 559,999,995 หุ้น
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรงของ OTO จนกระทั่งมีคำสั่งให้ OTO และ OTO-W1 ใช้เกณฑ์ Cash balance ระดับ 1 ตั้งแต่ 6 มิ.ย.-23 มิ.ย.66 และต่อมาได้ออกคำเตือนให้ระมัดระวังการเข้าลงทุน
นี่นับเป็น Money Game ที่มีการทำราคาขึ้นไปสูงผิดปกติ และล่อให้นักลงทุนเข้าใช้สิทธิแปลง OTO-W1 เป็นหุ้น OTO เมื่อแปลงเสร็จแล้วก็ทุบหุ้นลง คนที่มีหุ้นอยู่ในมือเยอะก็ขายออก แล้วมารอซื้อด้านล่าง ขณะที่นักลงทุนที่เพิ่งเข้าไปเมื่อเห็นราคา OTO ร่วงลงมาแรงก็ตกใจขายตัดขาดทุน เรียกว่าถอดใจเลย คนที่เสียหายหนักกว่าคือหุ้นที่เพิ่งใช้สิทธิกว่า 233 ล้านหุ้นที่ยังไม่ได้เข้าซื้อขายจะต้องรับชะตากรรมกันไป
นอกจากราคาหุ้นดิ่งฟลอร์แล้วยังชวนให้ติดตามงบการเงินของ OTO เท่าที่ดูในปี 65 ขาดทุน 116.22 ล้านบาท จากปี 64 มีกำไรสุทธิ 55.68 ล้านบาท แต่ระยะหลัง OTO มีความพยายามหาธุรกิจใหม่อย่างพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจคาร์บอนเครดิต รวมถึงมีแผนขยายการลงทุน EV Bike ทำให้ภาพบริษัทเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจรับเมกะเทรนด์
ประกอบกับเมื่อ 6 มิ.ย.66 นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช แจ้งการลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.66 และแต่งตั้งนายบัณฑิต สะเพียรชัย อดีตผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าของบางจากฯ นั่ง 2 ตำแหน่งแทน มีผล 1 ก.ค.66 อย่างไรก็ดี ขอให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลกันดีๆ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ OTO จะเป็นอย่างไร เรื่องนี้คงต้องดูกันต่อไป
อนึ่ง ณ วันที่ 17 พ.ค.66 ผู้ถือหุ้นใหญ่ OTO ได้แก่ นายบุญเอื้อ จิตรถนอม 24.43% นายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ 17.58% น.ส.กิตติยา อุทกโยธะ 6.21% นายภิญโญ รุขพันธ์เมธี 5.90% น.ส.กนกรัตน์ วงศ์ประไพโรจน์ 3.09% นายสถาพร โพธิ์ทอง 3.04%