กลุ่มผู้เสียหายจากโครงการ "Crypto Ronin NFT" ของ "นายสุรบถ หลีกภัย" หรือปลื้ม VRZO ได้รวมตัวกันที่พรรคก้าวไกล เพื่อยื่นหนังสือผ่าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ว่าที่ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เป็นผู้รับเรื่อง หลังร่วงลงทุนในโครงการดังกล่าวกว่า 10 ล้านบาท หวั่นคดีไม่คืบ
ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล วานนี้ (12 มิ.ย.) กลุ่มผู้เสียหายจากโครงการ Crypto Ronin NFT ของนายสุรบถ หลีกภัย หรือปลื้ม วีอาร์โซ ได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือผ่านทางนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ว่าที่ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เข้ามาเป็นผู้รับเรื่อง โดยตัวแทนจากผู้เสียหายในโครงการดังกล่าว เปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวมีที่มาจากโครงการ Crypto Ronin NFT โดยจากข้อมุลในโครงการที่บริษัทแจ้งต่อสาธารณชนคือจะมีการทำเกมออนไลน์ในลักษณะ Play-To-Earn คือ สามารถทำเงินได้จากการเล่นเกม โดยเจ้าของโครงการเปิดเผยว่า จะสามารถใช้งานได้ภายในเดือน ส.ค. 2565 มีการขายและให้ประมูลผลงานศิลปะออนไลน์ในรูปแบบ NFT ที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว เพราะสามารถนำไปใช้เล่นในเกมส์หรือซื้อขายได้
ขณะที่เมื่อเกมมีการเปิดตัวให้เล่น มีการจัดงานเปิดกิจกรรมให้ประมูลสินทรัพย์ NFT ซึ่งมีคนสนใจเป็นจำนวนมาก ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โดยมีการเชิญอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมาร่วมโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยมีการขายที่ดินเพื่อใช้ในเกม ในราคาประมาณ 50,000 บาทต่อชิ้น และขายไปได้ถึง 130 ชิ้น โดยทั้งหมดมีการซื้อขายผ่านทางตลาดกลางสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งเว็บไซต์ Opensea.io ของต่างประเทศ และเว็บไซต์ https://cryptoronin.co ที่ทำโดย บริษัท วีอาร์โซ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการและผ่านทางเว็บไซต์ https://www.bitkubnft.com/ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม NFT ของ Bitkub ในการให้บริการเป็นตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
อย่างไรก็ตามปรากฏว่า ล่าสุดจนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ตามที่ทางบริษัทกล่าวอ้างไว้แต่อย่างใด ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องการชดใช้ค่าเสียหายจากบริษัท ซึ่งคาดว่ามูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
“กรณีนี้อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงของสินทรัพย์ดิจิทัล แต่หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนกับว่า มีบริษัทหนึ่งสัญญาว่าจะเปิดร้านอาหาร และทำการขาย Voucher ล่วงหน้า เพื่อให้ไปใช้ได้ในร้านอาหารเมื่อเปิดให้บริการ แต่สุดท้ายร้านอาหารนั้นกลับไม่เปิดให้บริการจริง ทำให้ Voucher ที่เสียเงินซื้อไปไม่มีมูลค่าใดๆเลย” ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายชี้แจง
ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยร้องเรียนไปทางหน่วยงาน เช่น สคบ. หรือ บก.สอท. มาก่อนแล้ว ซึ่งได้รับความช่วยเหลือที่ดี แต่อยากจะให้ทางพรรคก้าวไกล ช่วยติดตามประสานงาน เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องนี้จะถูกดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมา ปราศจากอิทธิพลใดๆ
ด้านนายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องของการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงให้ข้อมูล เช่น การรวมคดีของผู้เสียหายที่ปัจจุบันถูกส่ง จาก บก.สอท. ไปที่ สน.ท้องที่ ทำให้การแจ้งความร้องทุกข์มีการกระจายไปหลายแห่ง จะสามารถรวมเพื่อให้หน่วยงานใดรับผิดชอบโดยตรงได้หรือไม่ นอกจากนี้จะติดตามหากคดีไม่คืบหน้า โดยสามารถใช้กลไกของคณะกรรมาธิการได้ เมื่อมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
"เรื่องนี้นอกเหนือจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการไม่ทำตามสัญญาของทางบริษัทแล้ว อีกประเด็นที่หยิบยกมาบ่อยครั้ง คือ มาตรการการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ที่หลายครั้งจะมีการห้าม แต่เมื่อโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นไม่สามารถปิดกั้นได้ เหมือนกันระบบการเงินแบบเดิมๆ ผลก็คือจะเกิดการทำการซื้อขายที่ไม่ได้อยู่ใต้การควบคุมของ ก.ล.ต. ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการหลอกลวง หรือกรณีแบบที่ผู้เสียหายกลุ่มนี้เจอ โดยที่ภาครัฐไม่สามารถกำกับดูแลได้เลย" นายปกรณ์วุฒิ กล่าวทิ้งท้าย