หุ้นปิดเช้าลบ 5.57 จุด พักตัวรับแรงกดดันราคาน้ำมันร่วง และแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้แรงหนุนจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาพลังงานปรับตัวลง และหุ้นที่จะเข้า MSCI Rebalance Index มีผลวันที่ 31 พ.ค.66 รวมถึงหุ้นเข้า FTSE SET, SET50, SET100 ทำให้ชะลอการปรับตัวลงแรงของตลาดไว้ได้บ้าง
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าพักตัว รับแรงกดดันราคาน้ำมันดิบร่วง โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ดิ่งลงเกือบ 3% ใกล้หลุด 72 ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะลดกำลังการผลิตหรือไม่ หลังรัสเซียประกาศขวางในการประชุมวันที่ 4 มิ.ย. ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ออกมา
อีกทั้งยังมีประเด็นลบจากทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยและคงดอกเบี้ยในระดับที่ใกล้เคียงกันแล้ว เป็นปัจจัยหนุนต่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง กดดันค่าเงินบาทอ่อนค่า และเม็ดเงินต่างชาติไหลออก
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้แรงหนุนจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาพลังงานปรับตัวลง และหุ้นที่จะเข้า MSCI Rebalance Index มีผลวันที่ 31 พ.ค.66 รวมถึงหุ้นเข้า FTSE SET, SET50, SET100 ทำให้ชะลอการปรับตัวลงแรงของตลาดไว้ได้บ้าง
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,529.85 จุด ลดลง 5.57 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.36% มูลค่าการซื้อขาย 21,018 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งตัวแดนลบต่อ เนื่องจากนักลงทุนยังรอการเปิดเผยดัชนีรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน เม.ย.ของสหรัฐฯ คืนนี้ ซึ่งตลาดคาดทรงตัวจากเดือน มี.ค. และการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า ประกอบกับความคืบหน้าประเด็นการเมืองในประเทศ
โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,520-1,525 จุด และแนวต้าน 1,535-1,540 จุด