หลังจากทรุดลงหนักจนหลุด 10 บาท สร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบหลายปี หุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ก็ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง โดยได้รับแรงกระตุ้นจากผลกำไรไตรมาสแรก
NEX ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ หลังปิดการซื้อขายหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 152.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 62.75 ล้านบาท
ราคาหุ้น NEX ตอบรับผลกำไรที่เติบโตก้าวกระโดดทันทีในการซื้อขายวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม โดยแม้ดัชนีหุ้นจะทรุดเกือบ 20 จุด แต่หุ้น NEX ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง สวนภาวะตลาด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 12.80 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 24.27% มูลค่าซื้อขาย 629.46 ล้านบาท
ผลประกอบการที่เติบโตเกิดจากรายได้การส่งมอบรถอีวี ซึ่งคาดว่าปีนี้จะส่งมอบให้ลูกค้ามากกว่า 4 พันคัน และจะทำให้ผลประกอบการสดใส
NEX เป็นหุ้นในกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD โดยราคาหุ้นกลุ่มนี้มักเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
EA เคยขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 105.50 บาท ก่อนจะปรับตัวลงต่อเนื่อง จนล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาปิดที่ 67 บาท โดยช่วงนี้หุ้นไม่มีความโดดเด่นมากนัก แต่ NEX กำลังร้อนจัด
ผลประกอบการ NEX ย่ำแย่อยู่หลายปี ขาดทุนต่อเนื่อง และเพิ่งพลิกมีกำไรในปี 2564 โดยมีกำไรสุทธิ 208.37 ล้านบาท ส่วนไตรมาสแรกปีนี้กำไรแล้ว 152.08 ล้านบาท น้อยกว่ากำไรปี 2564 ทั้งปีเพียงเล็กน้อย
ในรอบ 12 เดือน NEX เคยแตะจุดสูงสุดที่ 20.20 บาท ก่อนจะปรับฐานลงจนต่ำสุดที่ 9.95 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ค่าพี/อี เรโช NEX อยู่ที่ 52 เท่า โดยยังไม่จ่ายเงินปันผล เพราะผลประกอบการเพิ่งเริ่มมีกำไร ส่วนราคาหุ้นที่ขยับขึ้นแรงเป็นการเก็งกำไรบนความคาดหมายว่า ผลประกอบการปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดดต่อจากปี 2564
การฟื้นตัวของ NEX ดึงหุ้น BYD เด้งตาม แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสแรกจะออกมาในทิศทางตรงข้ามก็ตาม โดย BYD มีผลขาดทุนสุทธิ 287.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 33.63 ล้านบาท
ผลประกอบการ BYD ขาดทุนหลายปีติดต่อ ราคาหุ้นในรอบ 12 เดือน เคยทรุดต่ำสุดที่ 7.05 บาท แต่ล่าสุดปิดที่ 8.90 บาท โดยราคาดีดตัวเกาะหุ้น NEX ขึ้นมาโดยไม่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว
หุ้นกลุ่ม EA ไม่ได้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันเหมือนก่อน แม้ช่วงขาลงจะกอดคอกันร่วง แต่ช่วงปรับตัวขึ้น NEX ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ โดยมี BYD เกาะขาตามขึ้นมา
แต่ EA ซึ่งเป็นหุ้นตัวแม่ยังซึมอยู่เพราะไม่มีข่าวดีหนุน มีแต่ปัจจัยลบที่กดดันหุ้นโรงไฟฟ้าทั้งกลุ่ม
รอบนี้ NEX ขยับขึ้นมากว่า 30% แล้ว จากจุดต่ำสุดที่ 9.95 บาท วันอังคารที่ผ่านมาปิดที่ 13.30 บาท โดยมีแรงกระตุ้นจากผลกำไรไตรมาสแรกที่ออกมาสวย จนกลายเป็นหุ้นเด่นสวนภาวะตลาดที่ผันผวน และมีแนวโน้มกลับตัวสู่ขาขึ้น
เพียงแต่ราคาหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่เป็นราคาบนความคาดหมายแนวโน้มผลประกอบการ
ถ้ามั่นใจว่าผลประกอบการ NEX กลับมาจริงอาจเป็นหุ้นที่ซื้ออนาคตได้ แม้ราคาจะแพงไปหน่อยก็ตาม