ช่วงนี้หุ้นกลุ่มนอนแบงก์กลับมาคึกคัก เป็นกลุ่มที่โดดเด่นในตลาดหุ้น โดยบรรดากูรูหุ้นหยิบยกเหตุผลต่างๆ มาสนับสนุนการคืนชีพของหุ้นกลุ่มนี้ ทั้งที่ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ทยอยประกาศออกมาไม่ได้ดีมากนัก
หุ้นกลุ่มนอนแบงก์ที่ทะยานขึ้นยกแผงเป็นหุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถตัวใหญ่ ประกอบด้วย หุ้นบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD หุ้นบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR และหุ้นบริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC
นับตั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด หุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถถอยหลังสู่ช่วงขาลงเต็มตัว รวมทั้งหุ้น TIDLOR ซึ่งเข้ามาซื้อขายเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 หลังนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนในราคา 36.50 บาท และคนที่จองซื้อเจ็บตามๆ กัน
หุ้น SAWAD ลงต่ำสุดในรอบนี้ที่ราคา 38 บาท หุ้น MTC ต่ำสุดที่ 30.75 บาท และ TIDLOR ต่ำสุดที่ 20.44 บาท ก่อนที่ทั้งกลุ่มจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้น โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม หุ้น SAWAD ปิดที่ 60.75 บาท เกือบทะลุจุดสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ 61 บาท
MTC ปิดที่ 39.75 บาท และ TIDLOR ปิดที่ 25.75 บาท โดยรอบนี้หุ้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถปรับตัวขึ้นระหว่าง 20% ถึง 50%
นักวิเคราะห์โบรกเกอร์บางสำนักประเมินว่า การที่หุ้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถฟื้นคนสู่ความคึกคักเกิดจากหลายปัจจัยสนับสนุน ส่วนหนึ่งคาดว่าผลประกอบการจะเติบโต การแข่งขันในธุรกิจลดความรุนแรงลง มีการควบคุมหนี้เสียได้ดีขึ้น
และมีข่าวในเชิงบวกสำหรับ SAWAD ซึ่งซื้อคืนหุ้นบริษัท เงินสดทันใจ จากธนาคารออมสิน ในสัดส่วน 49% ของทุนจดทะเบียนหรือจำนวน 4.9 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 306 บาท และทำให้บริษัท เงินสดทันใจ สามารถปล่อยสินเชื่อได้ในอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 18% ส่งผลให้กำไรเติบโตขึ้น
แต่ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ที่ทยอยประกาศกันมาไม่ได้ดีนัก โดย MTC มีกำไรสุทธิ 1,070.08 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,375.56 ล้านบาท
ราคาหุ้น MTC จึงวิ่งขึ้นสวนทางผลประกอบการที่ชะลอตัวลง
ส่วน TIDLOR ไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิ 955.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 940.36 ล้านบาท
สำหรับ SAWAD ยังต้องรอดูผลประกอบการไตรมาสแรก ซึ่งอีกไม่กี่วันคงประกาศ
ค่าพี/อี เรโชกลุ่มจำนำทะเบียนรถอยู่ระหว่าง 17-19 เท่า ซึ่งไม่ถือว่าสูงนัก ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2% ปัจจัยพื้นฐานโดยรวมจึงไม่โดดเด่นมากนัก แต่ราคาที่วิ่งขึ้นมายกแผงเกิดจากการเก็งกำไร ภายใต้ความคาดหมายว่า ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต
แต่ความจริงที่ปรากฏในไตรมาสแรก ตัวเลขผลประกอบการไม่ได้สดใสนัก
นอกจากนั้น นักวิเคราะห์ที่ประเมินว่าการแข่งขันธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะลดความรุนแรงลง เป็นการมองโลกสวยเกินไป เพราะการแข่งฃันมีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้น โดยจะมีคู่แข่งรายใหม่เข้ามา โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่จะไม่ปล่อยให้นอนแบงก์กอบโกยรายได้สินเชื่อจำนำทะเบียนอย่างสบายๆ เหมือนอดีต
แต่จะเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และแย่งชิงฐานลูกค้า โดยนอนแบงก์ไม่อาจโขกดอกเบี้ยจากผู้บริโภคได้แล้ว
ราคาหุ้น SAWAD MTC และ TIDLOR รอบนี้วิ่งมาไกลจนเพดานด้านบนอาจแคบลง และมีความเสี่ยงที่หุ้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถจะมีความผันผวน ถ้าผลประกอบการไม่ฟื้นจริง
นักเก็งกำไรที่ตามแห่เก็งกำไรหุ้นนอนแบงก์ ต้องระวังติดหลุมเหมือนรอบก่อนที่ราคาหัวทิ่มหัวตำกันยกแผง