อสังหาฯ ไตรมาสแรกรายได้-กำไรพุง “โนเบิล” เผยยอดขาย 4,402 ล้านบาท กำไร 73 ล้านบาท โต 1,195% ขณะที่ Backlog ในมือเพิ่มเป็น 22,396 ล้านบาท ด้าน SC Asset กวาดรายได้ 4,930 ล้านบาท กำไร 535 ล้านบาท ครึ่งปีหลังลุยต่อบ้านหรู New Series คอนโดฯ นิวแบรนด์ มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ “SHR” ในเครือสิงห์ เอสเตท เผยไตรมาส 1 คิดเป็นรายได้ 2,544 ล้านบาท กำไรสุทธิ 125 ล้านบาท เติบโต 16% หลังได้อานิสงส์การท่องเที่ยวขยายตัวหนุน
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) “NOBLE” กล่าวว่า ภาพรวมของความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวกลับมา หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้ไตรมาสแรกปี 66 มีรายได้ 2,135 ล้านบาท เติบโต 43% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท เติบโต 1,195% เมื่อเทียบปี 65 โดยปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จต่อเนื่องจากไตรมาส 4/65 ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีรายได้จากการให้บริการและบริหารงานก่อสร้าง และมีรายได้อื่นจากการยกเลิกสัญญาและรายได้จากการบริหารโครงการที่เพิ่มมากขึ้นจากโครงการร่วมทุน
โดยในช่วงไตรมาส 1/66 บริษัทฯ มียอดขายรวม 4,402 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายสินค้าพร้อมขาย 1,060 ล้านบาท และเป็นยอดขายสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและโครงการใหม่ 3,342 ล้านบาท สอดคล้องกับภาพรวมของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา ส่งผลดีต่อ Sentiment ทั้งลูกค้าในกลุ่มที่เป็นซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน
ขณะเดียวกัน ในช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 3,800 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการนิว คอร์ คูคต สเตชัน มูลค่า 2,200 ล้านบาท และ 2.โครงการนิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ มูลค่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่งผลให้มียอดขายรอโอน (Backlog) ณ ไตรมาส 1/66 ในมือรวมมูลค่า 22,396 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ภายใน 2-3 ปี
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กรบริษัทเอสซีแอสเสทคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวว่า ในไตรมาสแรกบริษัทมีรายได้ 4,930 ล้านบาท มาจากการดำเนินงาน 4,922 ล้านบาท เติบโต 29% แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 95% และรายได้จากการเช่าและบริการ 5% โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 535 ล้านบาท เติบโต 38% หรือคิดเป็น 10.8% ของรายได้รวม และมียอดขายรอโอน หรือ Backlog รวม 10,932 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. 66 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์ 58,585 ล้านบาท และหนี้สินรวม 36,251 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.62 แสดงถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง
“ตามยุทธศาสตร์ของ SC Thriving Beyond บริษัทจะเปิด 25 โครงการใหม่ มูลค่า 40,000 ล้านบาท ตามแผนงานปี 66 แบ่งเป็น 22 โครงการแนวราบ และ 3 โครงการแนวสูง”
นายเดิร์ก อังเดรลีน่า เดอคุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเอสโฮเทลแอนด์รีสอร์ทจำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท กล่าวว่า รายงานรายได้จากการขายและบริการเติบโต 16% จากไตรมาสก่อน หรือเพิ่มขึ้น 51% จากปีที่แล้วคิดเป็นรายได้ 2,544 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 66 จากผลการดำเนินงานที่ขยายตัวในทุกพอร์ตโฟลิโอ สอดรับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวโลก พร้อมรายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 125 ล้านบาทซึ่งเป็นการรายงานผลกำไรติดต่อกัน 3 ไตรมาส ตอกย้ำศักยภาพของธุรกิจ
การเพิ่มขึ้นของรายได้ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเกิดจากการเติบโตของธุรกิจโรงแรมที่บริษัทฯ ลงทุนทั้ง 4 พอร์ตโฟลิโอ โดยเฉพาะผลประกอบการของโรงแรมในประเทศไทยที่มีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากการเปิดประเทศ โดยทุกโรงแรมในประเทศไทยมีอัตราการเข้าพักในช่วงไตรมาสแรกของปีเฉลี่ย 85% และสามารถปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR)ได้เพิ่มขึ้นกว่า 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนเกิดโควิด-19 ขณะเดียวกัน ผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมในโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ และพอร์ตโรงแรมที่สหราชอาณาจักรยังส่งสัญญาณบวกเติบโตอย่างต่อเนื่อง
