วีรันดา รีสอร์ท เผยแผนลงทุนในระยะ 5 ปี (2566-2570) รับธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมฟื้นตัวโดดเด่น เดินหน้าลงทุนธุรกิจโรงแรมมูลค่า 4,200 ล้านบาท ทำให้ VRANDA มีห้องพักรวม 1,360 ห้อง เติบโตเกือบเท่าตัว ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลุย 4 โปรเจกต์หรู มูลค่าโครงการรวม 3,800 ล้านบาท พร้อมดีลแบรนด์อาหารเพิ่มเสริมความแข็งแกร่ง ขณะที่สถานการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมสดใส เติบโตกว่า 100% ดึง Blockchain-Chatbot ช่วยผลักดันยอดขาย
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไลฟ์สไตล์การพักผ่อนแบบ Exclusive เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในระยะ 5 ปี (2566-2570) ว่า วีรันดา รีสอร์ทฯ มีแผนลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต 6 แห่งด้วยกัน เริ่มจากปี 2566-2567 ประกอบด้วย “โครงการวีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ” (Veranda Pool Villas hua hin-cha am) บ้านพักแบบพูลวิลล่าหรู และ “โครงการวีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโตกราฟ คอลเลคชั่น” (Veranda Resort Phuket Autograph Collection) บนทำเลศักยภาพใกล้แหลมพันวา มีจำนวน 161 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ของปี 2567 นอกจากนั้น “โครงการวีรันดา คอลเลคชั่น สมุย-ร็อคกี้ รีสอร์ท” (Veranda Collection Samui-Rocky’s Resort) มีแผนการก่อสร้างห้องพักเพิ่มเติม จำนวน 20 ห้อง จาก 50 ห้องในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้ในปี 2567 วีรันดา รีสอร์ทฯ มีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นมาอีก 27% จาก 679 ห้อง เป็น 860 ห้อง
และในปี 2568-2570 จะลงทุนธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตเพิ่มอีก 4 แห่ง ในพื้นที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ เขาใหญ่ เชียงใหม่ กระบี่ และกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นอีก 500 ห้อง รวมเป็น 1,360 ห้อง หรือเพิ่มขึ้น 100% จากห้องพักปัจจุบัน รวมมูลค่าการลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตประมาณ 4,200 ล้านบาท
“วีรันดา คอลเลคชั่น สมุย-ร็อคกี้ รีสอร์ท ถือเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างสูงมาก โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี (มกราคม-กุมภาพันธ์) มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 90% เราจึงเตรียมขยายห้องพักเพิ่มขึ้นบนที่ดินเดิม เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567” นายวีรวัฒน์ กล่าว
ส่วนแผนลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย “โครงการวีรันดา พูล วิลล่า หัวหิน ชะอำ” (Veranda Pool Villas hua hin-cha am) บ้านตากอากาศหรูแบบพูลวิลล่า ซึ่งได้เปิด Presale ไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ “โครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต” ประกอบด้วย ลักชัวรี พูล วิลล่า และลักชัวรี พูล สวีท เรสซิเดนซ์ ซึ่งจะเปิด Presale ครึ่งปีหลัง 2566 อีกทั้งการพัฒนาโครงการที่เขาใหญ่ และชะอำ-หัวหิน รวมมูลค่าโครงการ 3,800 ล้าน จึงมั่นใจว่านับจากนี้ไปวีรันดา รีสอร์ทฯ จะเติบโตก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
นายวีรวัฒน์ กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวไทยและธุรกิจโรงแรมในไตรมาสแรกของปี 2566 ว่ายังคงคึกคักต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ในขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ส่งผลให้ในไตรมาส 1/2566 ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตภายใต้แบรนด์วีรันดาที่เปิดบริการทั้ง 6 แห่ง สามารถทำรายได้ช่วงไฮซีซันได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ไตรมาสแรกของปี 2566 จะมีรายได้กิจการโรงแรมเติบโต 100% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ คาดการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยตลอดทั้งปีจะปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ โดยมีปัจจัยบวกมาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 28 ล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2565
อย่างไรก็ดี เพื่อรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวอย่างโดดเด่น วีรันดา รีสอร์ทฯ ได้ทำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่งเสริมการขาย เช่น เทคโนโลยี Blockchain ที่จะเข้ามาซัปพอร์ตการใช้ Voucher ของลูกค้าของธุรกิจโรงแรมในเครือวีรันดา (Blockchain Voucher / affiliate marketing) ให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มทดลองใช้ได้ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์นี้ การปรับโฉมหน้าเว็บไซต์ใหม่ การพัฒนาระบบการจองห้องพัก รวมถึงการพัฒนา Chatbot เข้ามาช่วยตอบคำถามลูกค้าและทำการจองห้องพักได้เสมือนมีพนักงานของรีสอร์ตให้บริการ โดยได้ตั้งเป้ารายได้ส่วนของธุรกิจโรงแรมในปี 2566 เติบโต 20% จากปีก่อน