หุ้นไทยตลาดร่วง -1.80 จุด โบรกฯ เผยดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้าหนุนตลาด แนะจับตาผลการประชุม กนง.และตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,600-1,610 จุด และแนวรับที่ 1,575-1,585 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 24 มีนาคม 2566 ปรับตัวลดลง -1.80 จุด หรือ -0.11% โดยปิดตลาดที่ 1,591.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,924.85 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีแกว่งกรอบแคบๆ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,599.78 จุด ในทางขาลงกลับกันปรับตัวต่ำสุดแตะระดับที่ 1,588.25 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 531 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 577 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 888 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +774.31 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -479.56 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -178.58 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -116.17 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,843.39 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,670.44 ล้านบาท ปิดที่ 143.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 994.00 ล้านบาท ปิดที่ 994.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,440.13 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,268.21 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTAปิดที่994.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 0.61%
2.CENTEL ปิดที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ2.23%
3.KCE ปิดที่45.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ2.23%
4.PTTEP ปิดที่143.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.70%
5.BBLปิดที่153.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.66%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCCปิดที่319.00 บาท ลดลง3.00 บาท หรือ 0.93%
2.CBGปิดที่99.00 บาท ลดลง1.50 บาท หรือ 1.49%
3.FORTHปิดที่32.25 บาท ลดลง1.25 บาท หรือ 3.73%
4.MEGAปิดที่42.75 บาท ลดลง1.00 บาท หรือ 2.29%
5.OSPปิดที่31.75 บาท ลดลง0.75 บาท หรือ 2.31%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,149.56 จุด ลดลง -2.60 จุด หรือ -0.12% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 960.41 จุด ลดลง -0.88 จุด หรือ -0.09% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 534.56 จุด ลดลง -0.38 จุด หรือ -0.07%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ยังคงไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุนตลาด หลังจากตอบรับข่าวต่างๆ ไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา และดัชนี SET ยังไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านแรก 1,600 จุดได้ ทำให้ภาพของการปรับตัวขึ้นต่อยังไม่ชัด
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ส่วนหนึ่งมาจากหุ้นกลุ่มธนาคารต่างประเทศที่ยังกังวลผลกระทบเป็นลูกโซ่ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐฯ ออกมาประกาศพร้อมช่วยผู้ฝากเพิ่มถ้าจำเป็น ทำให้เกิดความกังวลถึงผลกระทบที่ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ซึ่งแตกต่างจากธนาคารไทยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นในต่างประเทศ และมีทุนสำรองที่แข็งแกร่ง
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะยังคงแกว่งไซด์เวย์ และรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% รวมถึงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ ที่จะออกมาในสัปดาห์หน้าโดยประเมินกรอบการลงทุนให้แนวต้านที่ 1,600-1,610 จุด และแนวรับที่ 1,575-1,585 จุด