จีเอเบิลนับ 1 ไฟลิ่ง ขายหุ้น IPO 175 ล้านหุ้น เข้าซื้อขายบนกระดาน SET ภายในปีนี้ ประกาศศักดาผู้นำธุรกิจให้บริการโซลูชันระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล มุ่งสู่ผู้นำ “Tech Enabler” บริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของจีเอเบิล ในวันที่ 25 มีนาคม 2566 โดยมีแผน IPO จำนวนรวมไม่เกิน 175 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO และมีแผนจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ทั้งนี้ จีเอเบิลเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชันระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล มุ่งเน้นกลุ่มโซลูชันระดับองค์กร (Enterprise Solution and Services) ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีที่สำคัญในโลกยุคดิจิทัล ด้วยจุดเด่นการนำเสนอโซลูชันด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่ครบวงจรในหลากหลายอุตสาหกรรม ตลอดจนความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและเจ้าของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก นอกจากนี้ การมีรายได้จากการให้บริการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในสัดส่วนที่สูง (Recurring Income) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการให้บริการโซลูชันที่ติดตั้งใหม่ในแต่ละปี
ขณะที่จีเอเบิลเป็นเจ้าของเทคโนโลยี พัฒนาซอฟต์แวร์เป็นของตนเอง (Software Platform) ซึ่งมีการเติบโตในระดับสูง สามารถสร้างอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 32% (ในระหว่างปี 2563-2565) และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่างทางการแข่งขันของกลุ่มบริษัทฯ ที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า “จีเอเบิลมีแผนขยายการลงทุนเพื่อรองรับโอกาสในการเติบโต บรรลุสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ จีเอเบิลเตรียมนำไปใช้เพื่อลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในการเติบโตที่สูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯ ในระยะยาว รวมทั้งใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงาน”
สำหรับกลุ่มจีเอเบิล มีบริการหลัก 3 ด้าน คือ 1.ธุรกิจให้บริการโซลูชันระดับองค์กร (Enterprise Solution & Services) ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง และจัดจำหน่าย ตลอดจนการบริการบำรุงรักษาและบริการอื่นที่เกี่ยวเนื่อง โดยสามารถแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เป็น 5 กลุ่มโซลูชัน ได้แก่ โซลูชันด้านระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ โซลูชันด้านระบบคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ โซลูชันด้านระบบจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ โซลูชันด้านธุรกิจดิจิทัล และโซลูชันด้านการบริหารจัดการระบบสารสนเทศ ในปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนรายได้หลักราว 76%
2.กลุ่มธุรกิจโซลูชันที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value-added Distribution) ประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศผ่าน บริษัท เฟิร์ส ลอจิก จำกัด บริษัทย่อยของบริษัทฯ ซึ่งเป็นตัวแทนหลักในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชั้นนำต่างๆ จาก Oracle และ Veritas ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการใช้งานในระดับองค์กร ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานทั่วโลกมาแล้วอย่างยาวนาน
3.กลุ่มธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม (Software Platform) ซึ่งเกิดจากการนำเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นภายในองค์กรมาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ จนเกิดเป็นกลุ่มธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม โดยปัจจุบันมีซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของและพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าจำนวน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ 1.แพลตฟอร์มด้านการตลาดดิจิทัล (Marketing Technology) แบบครบวงจร 2.แพลตฟอร์มสำหรับจัดการข้อมูล Big Data และ 3.แพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการพื้นที่เช่า
ด้วยประสบการณ์กว่า 33 ปี จีเอเบิล คือ ผู้นำด้าน “Tech Enabler” ที่ช่วยยกระดับธุรกิจสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) ในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศ และดิจิทัลอย่างครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการบูรณาการและนำเสนอโซลูชันที่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรธุรกิจ ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และก้าวสู่ความสำเร็จขององค์กรตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมทีมบุคลากรมากประสบการณ์กว่า 1,000 ราย และให้บริการมาแล้วกว่า 30,000 โครงการ ตลอดจนความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและเจ้าของผลิตภัณฑ์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Oracle, Dell Technologies, Hewlett Packard Enterprise, F5, Huawei เป็นต้น เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ลูกค้าในยุคดิจิทัล ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาจีเอเบิลได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ภาคธุรกิจการเงิน ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตและพลังงาน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ เป็นต้น
ในปี 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 4,731 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.0 ในปีก่อน เป็นร้อยละ 21.2 และมีกำไรสุทธิ 268 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 จากปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่ต้องการมุ่งเน้นโซลูชันที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น โดยกลุ่มซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มถือเป็น Growth Engine ที่พร้อมสำหรับการเติบโตด้วยการเป็นเจ้าของ Software Platform ของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการข้อมูล Big Data ของ Blendata แพลตฟอร์มด้านการตลาดดิจิทัลของ InsightEra หรือว่าจะเป็นแพลตฟอร์มด้านการบริหารพื้นที่เช่าของ MVerge ที่อยู่ในทิศทางที่มีความต้องการของตลาด และมีการเติบโตสูง มาจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการทำโครงการให้ลูกค้า ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มของเราตอบโจทย์ลูกค้าได้จริง และนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นที่จะเป็น New Growth Engine ที่สร้างรายได้ให้เราในอนาคต