BKD ลั่นปีนี้งานตกแต่งล้นมือ ทั้งโครงการภาครัฐ เอกชน คาดแบ็กล็อกปีนี้มีโอกาสแตะระดับ 2 พันล้าน ชูกลุ่มโรงแรมยังโดดเด่น เผยอยู่ระหว่างรีโนเวตโรงแรมในเครือ AWC และบีทีเอส กรุ๊ปหลายแห่ง พร้อมจับมือกลุ่มเจมาร์ท ลุยโปรเจกต์แรก โครงการตกแต่งห้องผู้สูงอายุ และนำสินทรัพย์ NPA ในทำเลที่มีศักยภาพมาปรับปรุงให้พร้อมขายรับดีมานด์บ้านมือสอง
นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกเดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD เปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์ของบริษัทในปีนี้จะเน้นการเติบโตจากธุรกิจตกแต่งภายในซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ BKD และต่อยอดธุรกิจจากพันธมิตรที่เข้ามาถือหุ้นของบริษัท โดยในส่วนของกลุ่มเจมาร์ท โปรเจกต์แรกที่จะร่วมมือคือ โครงการตกแต่งห้องผู้สูงอายุ ของ บมจ.เจแอสเสท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขึ้นห้องตัวอย่าง และในเร็วๆ นี้จะมีโปรเจกต์ร่วมกันอีกประมาณ 1-2 โปรเจกต์ เช่น การนำเอาสินทรัพย์ NPA ของ บมจ.เจเอ็มที ในทำเลที่มีศักยภาพมาปรับปรุงให้พร้อมขายรับดีมานด์บ้านมือสอง
ส่วนภาพรวมของธุรกิจตกแต่งภายในมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องหลังจากที่เปิดประเทศ ซึ่งมีทั้งงานตกแต่งใหม่ งานรีโนเวต งานส่วนขยาย กลุ่มที่โดดเด่นยังคงเป็นกลุ่มโรงแรมและกลุ่มโรงพยาบาล โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมนั้น ลูกค้ารายใหญ่ที่ไว้วางใจและให้ความเชื่อมั่นใช้บริการ BKD อย่างต่อเนื่องคือกลุ่มบริษัทแอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ซึ่งปัจจุบัน BKD อยู่ระหว่างการรีโนเวตโรงแรมในกลุ่ม AWC หลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีงานตกแต่งโรงแรมของกลุ่มบีทีเอส กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรเข้ามาถือหุ้นใน BKD
นางนุชนารถ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ประมาณ 1 พันล้านบาท และล่าสุดได้ยื่นประมูลงานภาครัฐและภาคเอกชนไปแล้วมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับส่วนแบ่งงานประมูลดังกล่าวประมาณ 30-50% และภายในปีนี้คาดว่าจะมีงานให้เข้าร่วมประมูลอีกหลายพันล้าน ทำให้บริษัทมั่นใจว่าปีนี้ Backlog มีโอกาสขึ้นมาแตะที่ระดับ 2 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าภาครัฐ 50% และเอกชน 50%
"ปีนี้งานตกแต่งภายในคึกคักมาก มีโครงการออกมาให้ประมูลตลอดทั้งปี ทั้งงานรีโนเวต งานตกแต่งใหม่ งานตกแต่งบ้านเศรษฐีผลตอบรับดีมาก มีงานเข้ามาตลอด แถมเรายังได้พันธมิตรอย่างกลุ่มเจมาร์ทเข้ามาเสริม ยิ่งทำให้ BKD มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง" นางนุชนารถ กล่าว