"ไทรทัน โฮลดิ้ง" แจงผลงานดีเพราะ "ไทรทัน เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น" ทำรายได้ดี ผลจากการรับงานที่มีความชำนาญก่อสร้างด้านการวางท่อใต้ดินเพื่อขนส่งน้ำมัน หรือขนส่งน้ำ และวางรางรถไฟและอาณัติสัญญาณ อีกทั้งรับงานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ มีมูลค่างานสูง และรับงานตรงจากเจ้าของงาน ดันผลงานเติบโต คาดหนุนผลงานปีนี้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นายสัญญา กาญจนวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN กล่าวว่า ตามที่บริษัทแจ้งผลงานงวดสื้นปี 65 ซึ่ง บมจ.ไทรทัน เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น บริษัทย่อยภายใต้การดำเนินงานของ TRITN มีผลการดำเนินงานที่ดี เพราะภาพรวมในปี 2565 งานก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้สำคัญให้บริษัทแม่มีรายได้ 602.82 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 12.23 โดยโครงการในมืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างตามแผนงานที่วางไว้ รวมถึงบริษัทฯ ได้รับโครงการก่อสร้างเข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2565
“เรามุ่งเน้นการเติบโตไปที่จุดที่เรามีความชำนาญที่สุดคือ งานก่อสร้างด้านการวางท่อใต้ดินเพื่อขนส่งน้ำมัน หรือขนส่งน้ำ กับงานวางรางรถไฟและอาณัติสัญญาณ เราประสบความสำเร็จในการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งใน Vender list ในหน่วยงานรัฐและเอกชนขนาดใหญ่หลายแห่ง และหลายปีที่ผ่านมา เราเก็บสะสมประสบการณ์จากการเป็นส่วนหนึ่งของงานก่อสร้างขนาดเล็กหลายงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในอนาคตที่จะขยับไปรับงานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามลำดับ ในปีที่ผ่านมา เราขยับมูลค่างานที่รับให้มีมูลค่างานที่เพิ่มสูงขึ้น และรับงานตรงจากเจ้าของงานมากขึ้น ซึ่งทิศทางดังกล่าวจะทำให้สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงมากขึ้นและอยู่ในสายงานก่อสร้างที่เราถนัด แม้จะเริ่มขยายงานมาแล้วตั้งแต่ปลายปีก่อน แต่งานส่วนใหญ่จะเริ่มเข้าไปทำงานในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ในต้นปีนี้ คาดว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของเราที่จะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายสัญญา กล่าว
นอกจากนี้ งานโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาในปีนี้เราโฟกัสที่งานวางท่อและงานรางรถไฟเช่นเดิม แต่ขยับเข้าไปในโครงการที่มีมูลค่างานใหญ่ขึ้น ดังนั้น เมื่อมองเป้าหมายปลายปีนี้ที่มีงาน Backlog แตะระดับหมื่นล้านจากการเลือกเข้างานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และรับงานตรงกับเจ้าของงานมากขึ้น TRITN จะยังคงความเป็นบริษัทก่อสร้างที่เน้นงานด้านท่อน้ำมันกับรางรถไฟอยู่
นายสัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้งานที่ได้รับเข้ามาถือว่ามากพอเพียงแล้ว อีกทั้งยังมีโครงการก่อสร้างที่อยู่ระหว่างพัฒนาขนาดใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง ภารกิจต่อไปของบริษัทจะเป็นการเตรียมความพร้อมด้านเงินทุนเพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต แม้ตอนนี้บริษัทมีฐานเงินทุนแข็งแกร่ง มีสัดส่วนเงินกู้น้อยมาก โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ Debt to Equity Ratio (DE Ratio) อยู่ที่น้อยกว่า 1% แต่ยังมีขนาดเล็กสำหรับการรองรับงานมูลค่าสูง
ดังนั้น เพื่อเตรียมเงินรองรับการขยายตัวสามารถมาได้ทั้งจากส่วนทุนและส่วนของแหล่งเงินกู้ เช่น ออกหุ้นกู้ หรือหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือจะขอวงเงินสินเชื่อธนาคาร ซึ่งในปีนี้เรามีแผนออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ อายุ 1 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.5% ขายให้ผู้ถือปัจจุบันตามสัดส่วน โดยผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพตามสัดส่วนจะได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอร์แรนต์ W6) โดยไม่คิดมูลค่า (ศูนย์บาท) ในอัตราส่วน 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพต่อ 6,000 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 6 ด้วย
