นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศสหรัฐเมริกาได้ประสบปัญหาฐานะทางการเงิน และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องเข้าควบคุมเพื่อแก้ไขปัญหาฐานะนั้น กระทรวงการคลังได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวและประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อประเทศไทยอย่างใกล้ชิด
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในประเทศสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาฐานะทางการเงิน โดยธนาคาร Silicon Valley หรือ Silicon Valley Bank (SVB) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ระดับภูมิภาค (Regional Bank) ที่มีสินทรัพย์ประมาณ 7.35 ล้านล้านบาท หรือมีขนาดสินทรัพย์สูงสุดเป็นอันดับที่ 16 ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ถูกควบคุมโดยภาครัฐเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 เพื่อเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาเนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์ที่ลดลงจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและประสบภาวะขาดทุนจากกลยุทธ์ในการบริหารสินทรัพย์ของธนาคาร นอกจาก SVB แล้ว ธนาคาร Silvergate และธนาคาร Signature ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการเกี่ยวกับ Cryptocurrencies เป็นหลัก ได้ประสบปัญหาฐานะจากราคา Cryptocurrencies ที่ลดลง โดยธนาคาร Silvergate ปิดตัวลงเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 และธนาคาร Signature ถูกควบคุมโดยหน่วยงานภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาฐานะเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 ซึ่งปัญหาฐานะของธนาคารทั้ง 2 แห่งดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาด Cryptocurrencies
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 หน่วยงานภาครัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องได้แก่ ธนาคารกลาง (Federal Reserve: FED) กระทรวงการคลัง (Treasury Department) และองค์กรค้ำประกันเงินฝาก (Federal Deposit Insurance Corporation : FDIC) ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุนและผู้ฝากเงินว่าภาครัฐมีมาตรการรองรับหากระบบสถาบันการเงินประสบปัญหาสภาพคล่อง เช่น Bank Term Funding Program เป็นต้น และแนวทางการแก้ไขปัญหาฐานะของ SVB และธนาคาร Signature จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ฝากเงิน รวมทั้งจะไม่ใช้เงินงบประมาณในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ในเบื้องต้น กระทรวงการคลังประเมินว่าเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรง เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศสหรัฐอเมริกาในระยะสั้น แต่ไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่นๆ หรือระบบการเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และมีความพร้อมที่จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งต่อไป
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ระบบสถาบันการเงินไทยยังมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ และประเทศไทยมีระบบการคุ้มครองเงินฝากที่มีความเข้มแข็ง พร้อมรองรับสถานการณ์ที่มีความผันผวน ในการนี้ประชาชนจึงไม่ควรตื่นตระหนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อระบบสถาบันการเงินของประเทศไทยแต่อย่างใด”