นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโตกว่า 10% ทะลุ 5 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 4.69 แสนล้านบาท เป็นไปตามยอดขายต่อสาขา (SSSG) ที่คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ตอบรับผลดีจีนเปิดประเทศหนุนการท่องเที่ยวฟื้นส่งผลดีต่อกำลังซื้อเร่งตัวขึ้น
บริษัทเห็นสัญญาณบวกตั้งแต่ต้นปี เนื่องจาก SSSG ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.66 ในส่วนของธุรกิจค้าส่ง (Wholesale) เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือมากกว่า 10% เชื่อว่าเป็นผลจากในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มความสามารถให้บริการจัดส่งสินค้าแก่ร้านของลูกค้าสูงขึ้นถึง 3 เท่า ขณะที่ธุรกิจค้าปลีก (Retail) การเติบโตยังเป็นตัวเลขหลักเดียว แต่ในช่วงปลายเดือน ก.พ.ถึงต้นเดือน มี.ค. ยอดขายเริ่มกลับมาดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีก เชื่อว่าการเติบโตน่าจะสอดคล้องไปกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย บวกกับอัตราเงินเฟ้อรวมกันไม่น่าเกิน 6%
กลยุทธ์หลักของบริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาการใช้พื้นที่ร้านค้าปลีกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่คาดว่าพื้นที่เช่าจะเติบโต 6% โดยบริษัทตั้งเป้าอัตราการใช้พื้นที่กลับมาให้เท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่ทำได้ราว 95% ซึ่งร้านค้าปลีกในไทยมีเป้าหมาย 93% ส่วนร้านในมาเลเซียวางเป้าหมายกลับมาที่ 97%
ด้านช่องทางออนไลน์ บริษัทยังคงตั้งเป้าผลักดันให้ยอดขายเติบโต 15-20% ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยปีนี้จะเน้นการเพิ่มกำลังการส่ง Delivery เป็น 3 เท่า เนื่องจากเห็นความต้องการซื้อผ่านช่องทาง Makro pro หรือ Lotus's Smart App ค่อนข้างสูงมาก
นางเสาวลักษณ์ เปิดเผยอีกว่า บริษัทวางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 25,000-27,000 ล้านบาท แบ่งเป็น Wholesale ประมาณ 13,000 ล้านบาท และ Retail อีก 13,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการการขยายสาขาและลงทุนพัฒนาระบบภายใน
- Wholesale หรือ MAKRO จะขยายสาขาในไทย 12 สาขา แบ่งเป็น Food service จำนวน 8 สาขา Eco Plus และ Classic จำนวน 4 สาขา ส่วนต่างประเทศจะมุ่งเน้นไปในกลุ่มประเทศที่มีการลงทุนเดิมอยู่แล้ว เช่น อินเดีย จีน พม่า และกัมพูชา รวม 4-6 สาขา
- Retail จะขยาย Lotus's Hypermarkets จำนวน 3-4 สาขา โดยต้นปีเปิดไปแล้ว 2 สาขา ส่วน Lotus's Supermarkets ทั้งในไทยและมาเลเซีย จะเปิดจำนวน 10-14 สาขา และ Lotus's go fresh จะขยายจำนวน 100-150 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะรีไฟแนนซ์พอร์ตหนี้ให้เหลือสกุลเงินดอลลาร์น้อยที่สุดภายในครึ่งปีแรก