xs
xsm
sm
md
lg

LH BANK ชูกลยุทธ์ปี 66 รุกกลุ่ม Higher yield ตั้งเป้าสินเชื่อโต 8-10%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น.ส.ชมพูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH BANK) เปิดเผยถึงเป้าหมายทางธุรกิจของธนาคารในปี 2566 ว่า ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโตที่ระดับ 8-10% จากปีก่อนที่ 20.8% รายได้รวมเติบโต 10-12%ใกล้เคียงปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยเติบโต 10-12% จากปีก่อนที่ 13.9% รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่ลดลง 12% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income) ที่ 45% จากปีก่อนที่ 44.2% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 2.3-2.4% จากปีก่อนที่ 2.4% และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ 2.5% จากปีก่อนที่ 2.1% โดยการเติบโตของธุรกิจจะได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่าจะดีกว่าปีก่อนหลังการเปิดประเทศ

นอกจากนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจในระยะ 5 ปี ธนาคารมีเป้าหมายปรับพอร์ตสินเชื่อให้มีความสมดุลมากขึ้น โดยจะมีสัดส่วนสินเชื่อรายใหญ่ 35% ของพอร์ตรวม สินเชื่อเอสเอ็มอี 35% และสินเชื่อรายย่อย 30% มีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 5 เท่า มีจำนวนลูกค้าที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า มีจำนวนลูกค้าช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น 4 เท่า และมีสัดส่วนผู้ใช้ช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากปัจจุบันที่ 60%

"ผลประกอบการในปี 65 ที่ผ่านมาถือว่าเราเติบโตได้ดีในสภาวะที่เศรษฐกิจเพิ่งเริมฟื้นตัว โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อเป็นการเติบโตในกลุ่มเอสเอ็มอี และรายย่อยที่เรามุ่งเน้นที่จะกระจายพอร์ตไปเพื่อสร้างความสมดุล และสร้างรายได้ โดยในปีนี้จะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในกลุ่มดังกล่าวซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่ดี แต่เป็นการเติบโตอย่างระมัดระวัง และใช้ช่องทางดิจิทัลเข้ามาช่วย รวมถึงขยายออกไปภูมิภาคมากขึ้นในกลุ่มสินเชื่อบ้าน และกลุ่มธุรกิจไต้หวัน ซึ่งในปีนี้จะขยาย Hub ในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 9 แห่งเพื่อรองรับ โดยในส่วนของพอร์ตธุรกิจไต้หวันตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่ 9,000 ล้านบาท"

ด้านกลยุทธ์ของธนาคารปี 2566 มุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดี หรือ กลุ่ม Higher yield ที่มีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม รวมถึงการ Cross selling ผลิตภัณฑ์ของธนาคาร และการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัล (Digital Transformation) ที่เน้นการปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ควบคู่ไปกับการยกระดับ Digital Platform ให้ตอบโจทย์การทำธุรกรรมการเงินและการลงทุนที่ครบวงจร เช่น Investment Application “LH Bank Profita” และ Mobile Banking Application “LHB You” ที่เปิดให้บริการเมื่อเร็วๆ นี้ด้วย Highlight Features ทางการเงินรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย ฝาก-ถอน-โอน หรือลงทุนแบบไหน LHB You จะดีไซน์ไลฟ์สไตล์การเงินส่วนตัวผ่านการค้นหาตัวตนของลูกค้าในรูปแบบของ AVATAR เพื่อสร้าง Profile ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร ใช้งานสะดวก ทำธุรกรรมครบแบบ One stop shop ไม่ต้องไปสาขาตอบทุกความต้องการทางการเงินที่สมาร์ทกว่าเดิม และเป็นตัวเองได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Banking ดำเนินงานอย่างมีสำนึกและมีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลที่ดี รวมทั้งสนับสนุนสินเชื่อด้าน ESG

นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) กล่าวว่า กลยุทธ์ปี 2566 ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรเหมาะสมกับสถานการณ์และจังหวะการลงทุนให้ลูกค้าผ่าน Digital Platform รวมถึงกลยุทธ์การ Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน และ CTBC บริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม รวมทั้งขยายฐานลูกค้าที่ทำธุรกิจต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น (Trade Finance) นอกจากนี้ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อรูปแบบใหม่ๆ และสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน

"เรามองว่าเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องราว 3.7% โดยได้รับแรงส่งจากภาคบริการหลังการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ขณะที่ภาคการส่งออกมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าจะเศรษฐกิจจีนที่กลับมาเติบโตได้ดีขึ้นจะเข้ามาชดเชยได้บ้าง ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเทรดไฟแนนซ์ของธนาคารยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องในปีนี้"

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับปี 2564 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย สำหรับด้านการขยายตัวของสินเชื่อเติบโตร้อยละ 23 ซึ่งเติบโตทุก Segments โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าร้อยละ 47 กลุ่มลูกค้า SME เติบโตร้อยละ 35 และกลุ่มลูกค้าไต้หวันเติบโตสูงถึงร้อยละ 95 และระดับ NPL อยู่ในระดับต่ำ ที่ร้อยละ 2.09 ลดลงจากปีที่แล้วที่ร้อยละ 2.44 ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ NPL Coverage อยู่ที่ร้อยละ 221
กำลังโหลดความคิดเห็น