วายแอลจี ร่วมกับ SCB Point X ออกเคมเปญดีต่อใจ ใช้พอยท์แลกทองคำแท้ได้แล้ววันนี้ ถึง 12 พ.ค.2566 ทั้งระบบออฟไลน์และออนไลน์ ผ่านสาขา The Old Siam และผ่านบริการออมทอง YLG Gold Saving ระบบสุดว้าวของการออมทอง จะขายรับเงินสดทันที หรือจะสะสมทองคำต่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคตก็ทำได้ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า YLG ได้ร่วมมือกับ PointX แพลตฟอร์มที่รวมทุกคะแนนสะสมไว้ในที่เดียว พัฒนาโดย SCB TechX บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ในการออกแคมเปญ YLG x SCB PointX #ใช้พอยท์แลกทองได้แล้ววันนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเป็นเจ้าของทองคำแท้สินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์ผู้ที่มีคะแนนในบัตรเครดิต SCB POIN X ที่สะสมคะแนนไว้แต่ยังหาจังหวะใช้ไม่ลงตัว โดยแคมเปญนี้มีเวลาถึง 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 12 ก.พ.-12 พ.ค.2566 สำหรับช่องทางการใช้ PointX แลกทองคำนั้น เปรียบเสมือนการใช้คะแนนแทนเงินสดในการซื้อทองคำ
ผู้ที่มีคะแนนสามารถร่วมแคมเปญได้ทั้งแบบออฟไลน์ผ่านหน้าร้าน YLG สาขา The Old Siam (ดิโอลด์สยาม) เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น. และผ่านระบบออนไลน์ด้วยการตัดยอดซื้อผ่านบัญชีออมทอง YLG Gold Saving บริการออมทองรูปแบบออนไลน์ โดยผู้ที่จะแลกผ่านระบบออนไลน์ต้องทำการเปิดบัญชีออมทองกับ YLG gold saving ผ่าน https://bit.ly/2STGcDO ทั้งนี้ ทองคำที่ใช้คะแนนแลกผ่านระบบ YLG gold saving ยังสามารถออมต่อไปเพื่อสะสมให้ครบหนึ่งสลึงแล้วจึงทำการถอนทองคำออกมา หรือจะขายเก็งกำไรแบบเรียลไทม์ก็สามารถทำได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยอัตราการใช้คะแนนแลกทองคำสัดส่วนในแต่ละวันจะขึ้นกับราคาประกาศของสมาคมค้าทองคำในแต่ละวันซึ่งจะทำการประกาศผ่านแอปพลิเคชัน PointX อัปเดตวันต่อวัน
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้เชื่อว่าจะส่งเสริมด้านการออมของประชาชนได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันคนไทยหันมาทำการออมผ่านทองคำมากขึ้น โดยในปี 2565 ทั้งปีพบว่าลูกค้าบัญชีออมทองของ YLG เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นว่าถึงแม้ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อ แต่ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมเพราะสามารถสร้างผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว
ส่วนทิศทางการเคลื่อนไหวของทองคำในระยะนี้มองว่าทองคำในประเทศมีความน่าสนใจเพราะค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่แตะระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จึงมองว่าราคาทองคำในประเทศมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 29,300 บาทต่อบาททองคำ แนวต้าน 30,300 บาทต่อบาททองคำ ส่วนราคาทองคำในตลาดโลกนั้นมองว่าระยะกลางเป็นลักษณะปรับฐานโดยมีแนวรับแรกบริเวณ 1,818-1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ สลับฟื้นตัวในระยะสั้นหลังจากราคาเข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป (Oversold) แนะนำย่อซื้อ-ขึ้นขายทำกำไรระยะสั้น ส่วนแนวต้านมองที่ 1,860-1,870 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ทั้งนี้ ยังมองว่าทิศทางการเคลื่อนไหวทองคำในระยะยาวปีนี้ยังเป็นสัญญาณบวกตราบใดที่ยังรักษาฐานเหนือระดับต่ำสุดของปี 2565 โดยแนะนำติดตามการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบการลงทอง