"อินทัช โฮลดิ้งส์" กำไรงวดนี้ 10,533 ล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อนที่มีกำไร 10,748.22 ล้านบาท เหตุส่วนแบ่งกำไรจากเอไอเอสลดลง ขณะการเพิ่มขึ้นของต้นทุนโครงข่ายจากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายทางการตลาด บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเพิ่มอีกหุ้นละ 1.56 บาท
นายคิมห์ สิริทวีชัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH แจ้งผลงานไตรมาส 4 ปี 65 พบว่ามีกำไรสุทธิรวม 10,533 ล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อนที่มีกำไร 10,748.22 ล้านบาท เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากเอไอเอสลดลง และจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนโครงข่ายจากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายทางการตลาดสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการหลัก
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 65 ในอัตรา 4.72 บาทต่อหุ้น หลังจากจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 65 แล้วในอัตรา 3.16 บาทต่อหุ้น จึงคงเหลือที่จะจ่ายในอัตรา 1.56 บาทต่อหุ้น ซึ่งบริษัทจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 เมษายน 2566
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 65 เริ่มดีขึ้น เพราะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง และการผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ยังคงมีผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อรวมถึงราคาพลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงความเสี่ยงอื่นๆ เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำใหผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจในกลุ่มอินทัชในปี 65 เติบโตไม่มากนัก ขณะที่ต้นทุนโดยเฉพาะค่าสาธารณูปโภคสูงขึ้นมาก ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน
