หุ้นไทยปิดร่วง -4.60 จุด โบรกฯ เผยเกิดจากแรงเทขายหุ้นใหญ่ DELTA-MAKRO ฉุดดัชนีร่วงกว่า 3 จุด อีกทั้งตลาดหุ้นเอเชียยังติดลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหลัง Bond Yield พุ่งขึ้น แนะจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ และ GDP ไทยในสัปดาห์หน้า มองแนวรับแรกที่ 1,660 จุด และถัดไป 1,650 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,670 จุด และ 1,680 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 10 ก.พ.2566 ปรับตัวลดลง -4.60 จุด หรือ -0.28% โดยปิดตลาดที่ 1,664.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,917.38 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนี SET INDEX ปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,668.97 จุด ในทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,660.10 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 468 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 509 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 992 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -2,441.29 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,234.22 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +83.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +123.48 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,216.44 ล้านบาท ปิดที่ 10.90 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,282.03 ล้านบาท ปิดที่ 206.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,971.18 ล้านบาท ปิดที่ 100.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
4.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,870.47 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,537.56 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 206.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ 3.26%
2.BBL ปิดที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.86%
3.INTUCHปิดที่ 74.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.41%
4.FORTHปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.92%
5.CENTEL ปิดที่ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.82%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 896.00 บาท ลดลง 26.00 บาท หรือ 2.82%
2.BH ปิดที่ 210.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.94%
3.JMT ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.88%
4.KBANK ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.04%
5.KCE ปิดที่ 47.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.58%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,230.55 จุด ลดลง -5.34 จุด หรือ -0.24% ดัชนี SET50 ปิดที่ 989.10 จุด ลดลง -2.41 จุด หรือ -0.24% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 606.55 จุด ลดลง -2.91 จุด หรือ -0.48%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง โดยรับแรงกดดันจากแรงขายหุ้น DELTA และ MAKRO จากปัจจัยเฉพาะตัว ฉุดดัชนีราว 3 จุด โดยเฉพาะ DELTA กังวลผลประกอบการจะออกมาแย่เหมือน KCE ส่วน MAKRO ผิดหวังที่ไม่เข้า MSCI แม้จะมีแรงซื้อกลุ่มสื่อสาร ADVANC, INTUCH ประคอง Downside ไว้ได้ระดับหนึ่ง ประกอบกับบรรยากาศการลงทุนภาพรวมในเอเชียเป็นลบ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) ดีดขึ้น ทำให้ต่างชาติชะลอการลงทุนหุ้นไทย แต่ตลาดไปไหนได้ไม่ไกล เพราะนักลงทุนรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันอังคารหน้า (14 ก.พ.) และตัวเลข GDP ไทยวันศุกร์ (17 ก.พ.)
ส่วนแนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้า มองว่าน่าจะเห็นสีสันการลงทุนในวันพุธ โดยช่วง 2 วันแรกของสัปดาห์ตลาดคงรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ หากออกมาต่ำกว่าคาดช่วยต่างชาติชะลอแรงขายและอาจกลับมาซื้อ โดยประเมินแนวรับแรกที่ 1,660 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,650 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,670 จุดและ 1,680 จุด