หุ้นไทยปิด -10.15 จุด โบรกฯ เผยนักลงทุนกังวลต่างชาติแห่เทขายหุ้นไทยต่อเนื่องหลังเปิด short TFEX กว่า 1.4-1.5 แสนสัญญา อีกทั้งผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ยังต่ำกว่าคาด มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ แนวรับหลัก 1,670 จุด ถัดไปที่ 1,650 จุด ส่วนแนวต้านหลัก 1,695 จุด แนะหุ้นปันผล
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 ก.พ. 2566 ปรับตัวลดลง -10.15 จุด หรือ -0.60% โดยปิดตลาดที่ 1,670.34 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,522.85 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์ในช่วงเช้า ก่อนที่จะปรับตัวลดลงลงลึกในช่วงบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,684.75 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,667.79 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 381 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 404 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,214 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,990.13 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +194.44 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -3,973.07 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -211.50 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KCE มูลค่าการซื้อขาย 5,038.45 ล้านบาท ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 6.50 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,620.40 ล้านบาท ปิดที่ 930.00 บาท ลดลง 40.00 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,616.97 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,479.82 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,400.29 ล้านบาท ปิดที่ 11.00 บาท ลดลง 0.20 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CENTEL ปิดที่ 55.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 2.31%
2.STA ปิดที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาทหรือ 4.70%
3.CPN ปิดที่ 73.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 0.68%
4.MINT ปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาทหรือ 0.75%
5.IVL ปิดที่ 40.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาทหรือ 0.62%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTAปิดที่ 930.00 บาท ลดลง 40.00 บาทหรือ 4.12%
2.KCE ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 6.50 บาทหรือ 11.40%
3.HANA ปิดที่ 61.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 4.69%
4.JMT ปิดที่ 50.75 บาท ลดลง 2.25 บาทหรือ 4.25%
5.FORTH ปิดที่ 40.00 บาท ลดลง 2.00บาทหรือ 4.76%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,237.69 จุด ลดลง -14.79 จุด หรือ -0.66% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 992.32 จุด ลดลง -5.93 จุด หรือ -0.59% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 604.48 จุด ลดลง -7.02 จุด หรือ -1.15%
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงจากความกังวลนักลงทุนต่างชาติเทขายต่อเนื่อง เพราะเปิด short positon ในตลาด TFEX อยู่ 1.4-1.5 แสนสัญญา โดยเปิด short มา 5 สัปดาห์แล้วตั้งแต่ต้นปี เป็นผลจากการปรับพอร์ตหลังเข้าซื้อหุ้น Defensive ในตลาดหุ้นไทยหลีกเลี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยแบบ Hard Landing แต่ขณะนี้ได้ปรับมุมมองใหม่ ปรับหุ้น Defensive-หุ้นวัฎจักรออกแล้วเข้ากลุ่มเทคโนโลยี-ไอที กลุ่มสินค้าหุ่นยนต์ ซึ่งไมค่อยมีในตลาดหุ้นไทย แต่ส่วนใหญ่อยู่ใน Nasdaq, S&P 500, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้, ตลาดหุ้นไต้หวัน จึงขายหุ้นกลุ่ม Defensive , Utility , Healthcare ในตลาดหุ้นไทยออก
ขณะเดียวกันผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 65 ออกมาไม่ค่อยดี ล่าสุด KCE ต่ำกว่าคาด จากก่อนหน้าก็ผิดหวังผลประกอบการ SCC มาแล้ว ส่งผลให้นักลงทุนไม่กล้าซื้อหุ้นใหญ่ในช่วงนี้
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ประเมินแนวรับหลักที่ 1,670 จุด หากหลุดก็จะลงไปลึก ให้แนวรับถัดไปที่ 1,650 จุดหากยังไม่หลุดคาดพรุ่งนี้ก็ยังในกรอบ 1,670-1,695 จุด โดยมีแนวต้านหลักที่ 1,695 จุด แนะหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นใหญ่ หันเก็งกำไรหุ้นเล็กและกลาง โดยเฉพาะหุ้นปันผลจะปลอดภัยกว่า