นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) (MGC-ASIA) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมี บล.ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 336,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO
บริษัทมีแผนนำเงินไปลงทุนในบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด และบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่กลุ่มบริษัทในระยะยาว นอกเหนือจากการนำไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการสร้างการเติบโตในการดำเนินธุรกิจ
นายสัณหวุฒิ กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า 2 ทศวรรษ โดยสร้างความแข็งแกร่งด้วยการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ภายใต้ชื่อ "MGC-ASIA Ecosystem" ผ่านการขยายผลิตภัณฑ์ บริการและฐานลูกค้า เพื่อตอกย้ำศักยภาพการเป็นผู้นำทางธุรกิจที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทางอย่างครบวงจร (Lifestyle Mobility)
ปัจจุบัน มิลเลนเนียม กรุ๊ป MGC-ASIA มีผลิตภัณฑ์และบริการอย่างครอบคลุม ทั้งการจำหน่ายรถยนต์ บิ๊กไบค์ เรือยอชต์ เรือแม่น้ำ และรถยนต์มือสอง พร้อมการรับประกัน บริการจัดหาลูกค้าสำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินชั้นนำ บริการหลังการขายและซ่อมบำรุง บริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ
รวมถึงมีธุรกิจเสริมสร้างรายได้ระยะยาวและบริการอื่นๆ ได้แก่ บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์และมารีน นายหน้าประกันภัย และบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล เป็นต้น นอกจากนี้ การร่วมมือกับพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ผลิตและให้บริการด้านยานยนต์ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมสร้างให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและครบวงจรแก่ลูกค้า รวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น
กลุ่มบริษัทฯ ประกอบธุรกิจในรูปแบบ Holding Company โดยแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail Business) เป็นผู้นำเข้า และ/หรือผู้จำหน่ายรถยนต์ บิ๊กไบค์ เรือยอชต์ และเรือแม่น้ำ ในลักษณะธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail Business) รวมถึงให้บริการจัดหาลูกค้าสำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว
แบรนด์ยานยนต์ชั้นนำระดับโลกที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้นำเข้า และ/หรือผู้จำหน่าย ได้แก่ รถยนต์ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda และบิ๊กไบค์ BMW Motorrad, Harley-Davidson รวมถึงเรือยอชต์สัญชาติอิตาเลียน Azimut เรือแม่น้ำสัญชาติอเมริกัน Chris-Craft และบริการจำหน่ายรถยนต์มือสอง รวมถึงบริการจัดหาลูกค้าสำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว VistaJet เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง นอกจากนี้ ยังเป็นผู้จำหน่ายยานยนต์ BMW, MINI และ BMW Motorrad อันดับ 1 ของประเทศไทย
2) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ โดยมีศูนย์บริการครอบคลุม ช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักและสร้างรายได้ รวมถึงผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ให้บริการหลังการขาย จำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ อุปกรณ์ตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์ พร้อมบุคลากรที่ผ่านการอบรมด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องมืออันทันสมัยเพื่อรองรับการให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคต เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพ รวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น
3) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และพนักงานขับ เน้นกลุ่มลูกค้าบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่มีระยะเวลาการเช่า 2-5 ปี พร้อมให้บริการครบวงจรตลอดระยะเวลาเช่า และบริการเช่ารถยนต์ระยะสั้นภายใต้แบรนด์ระดับโลก Sixt Rent a Car ที่มีศูนย์บริการมากกว่า 4,500 สาขาในกว่า 105 ประเทศทั่วโลก โดยมีเครือข่ายกับบริษัทชั้นนำของโลกเป็นพันธมิตร ทางบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐในการบริหารจัดการรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้นำระดับประเทศในการประชุม ASEAN SUMMIT เมื่อปี 2562 รวมถึงงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ปี 2565 (APEC 2022) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทได้ขยายบริการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจอย่างครบวงจรผ่านสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องแก่ลูกค้าและองค์กร โดยมีกลุ่มธุรกิจให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร นายหน้าประกันภัย บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์ ซึ่งดำเนินงานผ่านบริษัทย่อย หรือบริษัทร่วม
กลุ่มบริษัทวางเป้าขยายศักยภาพทางธุรกิจให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมวางแผนต่อยอดและขยายธุรกิจมารีนในภูมิภาคเพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายใหม่ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ขยายบริการทางด้านการเงิน การเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับยานยนต์หรูทุกประเภท ผ่านบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด (Alpha X) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บมจ.เอสซีบี เอ็กซ์ (SCB) และบริการนายหน้าประกันภัย ผ่านบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และอื่นๆ
"กลุ่มบริษัทฯ ได้วางแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมรองรับการเติบโตทั้งในประเทศและภูมิภาค เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจครบวงจร รวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ นอกจากนี้ MGC-ASIA ให้ความสำคัญกับการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจแบบธรรมาภิบาล ตลอดจนมุ่งเน้นนโยบายรักษ์โลก ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีเป้าหมายขับเคลื่อนสู่องค์กรคาร์บอนต่ำเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว" นายสัณหวุฒิ กล่าว