xs
xsm
sm
md
lg

อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ลุยอัดแคมเปญรับยอดเดินทางพุ่งหลังเปิดประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพร้อม สิริสันต์ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (ไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางทั่วโลกหยุดชะงักลง แต่อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ยังรักษายอดใช้จ่ายผ่านบัตรได้ในระดับดี โดยหลักๆ มาจากการปรับเปลี่ยนแผนกระตุ้นให้สมาชิกบัตรกลับมาใช้บริการการเข้าพักและการเดินทางภายในประเทศมากขึ้น โดยสังเกตเห็นว่าพันธมิตรร้านค้าและบริการของเราที่มีการเติบโตสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสมาชิกบัตรของเรายังคงนิยมไปเที่ยวพักผ่อนและใช้เวลาวันหยุดในประเทศอยู่ แม้ว่าการเดินทางระหว่างประเทศจะกลับมาเปิดตามปกติอีกครั้งแล้วก็ตาม ขณะที่จำนวนการทำธุรกรรมในต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2562 แน่นอนว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้อาจเป็นผลมาจากฐานสมาชิกบัตรของเราที่มีเพิ่มมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังสถานการณ์โควิดผ่อนคลายลง สมาชิกบัตรของเราเริ่มกลับมามองหาประสบการณ์ที่ห่างหายไปนานกว่า 2 ปี ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งเราจะกลับมามอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของสมาชิกต่อไป โดยจะเดินหน้าร่วมกับพันธมิตรร้านค้าต่างๆ เพิ่มขึ้น เพื่อมอบประสิทธิภาพในการใช้จ่ายให้ผู้ถือบัตรมากขึ้น จากจำนวนร้านค้ารับบัตรปัจจุบัน 66 ล้านร้านทั่วโลก เติบโต 164% มีจำนวนผู้ถือบัตรกว่า 122 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่ร้านค้ารับบัตรในไทยนั้น เราได้ร่วมกับธนาคารกรุงเทพในการใช้เครื่องรูดบัตร

"แม้ว่ากลุ่มลูกค้ามั่งคั่งจะมีผู้เล่นพยายามเข้ามาในตลาดนี้มากขึ้น แต่เรามั่นใจในจุดเด่นของอเมริกัน เอ็กซ์เพรสคือ การมีบริการระดับที่ดีสำหรับผู้ถือบัตร ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการติดต่อที่รวดเร็วใช้เจ้าหน้าที่เป็นหลักเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรอย่างเต็มที่ และมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ตรงกับพฤติกรรมของผู้ถือบัตร โดยสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะต้องมีมูลค่าเป็น 3 เท่าของค่าธรรมเนียมในการใช้บัตร โดยปัจจุบันอเมริกันเอ็กซ์เพรสมีหน้าบัตรอยู่ 5 บัตร มีบัตรแพลทินัมเป็นบัตรท็อปที่ผู้ถือบัตรจะต้องมีรายได้สูงกว่า 1.2 ล้านบาทต่อเดือน มีค่าธรรมเนียมการใช้บัตรสูงสุด 35,000 บาทต่อปี ต่ำสุดที่ 1,400 บาทต่อปี มียอดใช้จ่ายต่อเดือนสูงกว่าระบบ 3.5 เท่าในไทย"

สำหรับความเสี่ยงในเรื่องของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และอาจจะมีบางประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้น เราได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมา จุดดีของเราคือการปรับตัวที่รวดเร็ว อย่างในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้ผู้ถือบัตรไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ เราได้นำเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในประเทศแทน ผนวกกับกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นกลุ่มมั่งคั่ง ที่มีกำลังซื้อสูงจึงทำให้ได้รับผลกระทบไม่มาก

นอกจากนี้ ปัจจุบันพบว่าอายุของผู้ถือบัตรมีอายุที่ลดลงคือกลุ่มที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปมากขึ้น จากก่อนหน้านี้จะมีกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงมีการปรับเปลี่ยนช่องทางการให้บริการอย่างบาลานซ์ทั้งช่องทาง Human Touch และช่องทางออนไลน์ที่คนรุ่นใหม่นิยมใช้ โดยปัจจุบันอเมริกัน เอ็กซ์เพรสมีแอปพลิเคชันที่มีผู้ถือใช้อยู่ประมาณ 79% ขณะเดียวกัน ช่องทางที่ใช้เจ้าหน้าที่บริการยังเป็นอีกจุดเด่นในการบริการของเราเช่นกันโดยปัจจุบันมีพนักงานอยู่ 64,000 คนทั่วโลก รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ต่างๆ อย่างเงินดิจิทัลหรือโทเคนต่างๆ อยู่ระหว่างการพิจารณา หากในประเทศไทยมีความพร้อมจะนำมาให้บริการตามความเหมาะสมต่อไป

ล่าสุด เพื่อตอบรับกับการเปิดประเทศอเมริกัน เอ็กซ์เพรสพร้อมนำเสนอสิทธิประโยชน์ใหม่เพื่อยกระดับการใช้บัตรและให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การพบปะผู้คนในชีวิตประจำวัน หรือการพักผ่อนในวันหยุดกับครอบครัวสำหรับสมาชิกบัตรแพลทินัม โดยสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มเข้ามานั้นมีมูลค่ารวมกันมากกว่าค่าสมาชิกรายปีถึง 3 เท่า โดยที่ค่าสมาชิกรายปียังคงเท่าเดิม เช่น

สิทธิประโยชน์ใหม่ด้านไลฟ์สไตล์
Global Dining Credit มูลค่า 14,000 บาท สมาชิกบัตรแพลทินัมจะได้รับเครดิตเงินคืนสำหรับกินอาหารมูลค่า 14,000 บาท โดยแบ่งเป็นเครดิตมูลค่า 7,000 บาท สำหรับร้านอาหารในประเทศไทย และเครดิตมูลค่า 7,000 บาท สำหรับร้านอาหารในต่างประเทศ โดยร้านอาหารที่ร่วมรายการในไทยนั้นประกอบด้วย Fine Dining ระดับ Michelin-starred เช่น Blue Elephant, Sühring และ Paste โดยมีร้านอาหารที่ร่วมรายการกว่า 1,400 แห่ง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยสิทธิประโยชน์นี้จะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

รวมถึงสิทธิประโยชน์ Platinum 1 for 1 ข้อเสนอในหมวดห้องพักโรงแรมและรีสอร์ต Sunday Brunch ชุดเมนูพิเศษ Afternoon Tea บริการสปา และบริการเช่ารถยนต์ ซึ่ง Stella Bar ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์ใหม่ที่เข้าร่วมรายการ โดยสมาชิกบัตรจะได้รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว เมื่อซื้อเครื่องดื่มที่ร่วมรายการ 1 แก้วในช่วงเวลา Platinum Hours จำกัดสูงสุด 3 แก้วต่อบัตรต่อการเข้าใช้บริการ และยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาว อีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ และโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด มัลดีฟส์ ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ Platinum 1 for 1 ในหมวดห้องพัก โดยสมาชิกบัตรจะได้เข้าพักฟรี 1 คืนจากทุกๆ 1 คืนที่ชำระค่าห้องพัก เป็นต้น

นอกจากนี้ สมาชิกบัตรยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ต่อเนื่องจากปี 2565 เช่น อภินันทนาการเข้าพัก 1 คืน ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ รับคะแนนสะสมเม็มเบอร์ชิป รีวอร์ด 5 เท่า จากยอดใช้จ่ายในต่างประเทศ บริการรถลิมูซีนรับส่งสนามบินทั้งขาไปและกลับจากสนามบินสุวรรณภูมิหรือสนามบินดอนเมืองสำหรับทุกๆ การเดินทางไปต่างประเทศที่สำรองเที่ยวบินกับพาร์ตเนอร์ที่ร่วมรายการ ผ่านแผนกบริการการเดินทางสำหรับสมาชิกบัตรแพลทินัม สิทธิเข้าใช้ห้องรับรองในสนามบินกว่า 1,300 แห่งทั่วโลกโดยไม่จำกัดครั้งในรายการ Global Lounge Collection ประกันภัยการเดินทางคุ้มครองสูงสุดถึง 25 ล้านบาท เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น