เกาหลีใต้เตรียมใช้ระบบติดตามคริปโต ตรวจสอบที่มาที่ไปธุรกรรมเงินดิจิตอล

เกาหลีใต้เล็งใช้ “ระบบติดตามสกุลเงินเสมือน” ภายในครึ่งแรกของปีนี้ เพื่อติดตามตรวจสอบและวิเคราะห์ประวัติการทำธุรกรรมคริปโต ดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม และตรวจสอบแหล่งทุนทั้งก่อนและหลังการโอน เพื่อรับมืออาชญากรรมสมัยใหม่ ติดตามนำเงินที่ถูกฉ้อโกงกลับคืน และปกป้องนักลงทุน

กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้แถลงเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จะใช้ระบบติดตามสกุลเงินเสมือนภายในครึ่งแรกของปีนี้ โดยอธิบายไว้ในรายงานประจำปี 2023 ว่า กระทรวงฯ จะยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์เพื่อรับมืออาชญากรรมสมัยใหม่ ตลอดจนถึงการฟอกเงิน และเพื่อติดตามนำเงินที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมกลับคืน โดยจะมีการสร้างกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่ตรงตามมาตรฐานสากล

ระบบติดตามสกุลเงินเสมือนนี้จะใช้เพื่อติดตามตรวจสอบประวัติและวิเคราะห์การทำธุรกรรมคริปโต ดึงข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม และตรวจสอบแหล่งเงินทั้งก่อนและหลังการโอน

รัฐบาลเกาหลีใต้เกริ่นมานานแล้วว่า จะใช้ระบบติดตามการทำธุรกรรมคริปโตผิดกฎหมาย เดือนตุลาคมปีที่แล้วสำนักอัยการสูงสุดระบุว่า กำลังอยู่ในกระบวนการจัดซื้อระบบติดตามคริปโตผ่านสำนักงานการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

นอกจากนั้นกระทรวงยุติธรรมยังระบุว่า จะพัฒนาระบบติดตามตรวจสอบและวิเคราะห์คริปโตของตัวเองในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

แถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมเกิดขึ้นหลังจากลี บ็อก-ฮยอน ผู้อำนวยการหน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงิน (FSS) กล่าวเมื่อต้นเดือนมกราคมว่า FSS กำลังวางแผนพัฒนาเครื่องมือติดตามตรวจสอบคริปโตเพื่อให้สามารถตรวจสอบความเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์คริปโตอย่างสม่ำเสมอ

ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการบริการทางการเงิน (FSC) เผยว่า จะเริ่มตรวจสอบ ณ ที่ทำการธุรกิจของบริษัทคริปโตท้องถิ่นในปีนี้ ครอบคลุมทั้งกระดานเทรด ผู้ดำเนินการวอลเล็ต และบริษัทเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิตอล

FSC เสริมว่า จะร่วมกับหน่วยข่าวกรองทางการเงิน (FIU) ที่มีหน้าที่ออกใบอนุญาตให้บริษัทคริปโต พัฒนาระบบเพื่อให้สามารถตรวจสอบบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเป็นประจำ โดยตั้งเป้าให้ระบบนี้ใช้งานได้ภายในสิ้นปีนี้

ที่ผ่านมา FSC ดำเนินการตรวจสอบพิเศษกับบริษัทคริปโตหลายแห่งหลัง “เหตุการณ์เทอร์รา/ลูนา” ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วที่นักลงทุนเกาหลีใต้เจ๊งระนาวจากการล่มสลายของเหรียญเทอร์รา โดยบรรดาหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องให้สัญญาว่า จะยกระดับการปกป้องนักลงทุนคริปโตและลดความเสี่ยงในการฟอกเงิน

วันจันทร์ที่ผ่านมา (30 ม.ค.) FSC ยังแนะนำให้จัดตั้งระบบที่เป็นหนึ่งเดียวสำหรับการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นข้อบังคับจากกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิตอลและผู้ออกคริปโต เพื่อนำเสนอข้อมูลที่เชื่อถือได้และปกป้องนักลงทุนจากการฉ้อโกง

นอกจากนี้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ยังทำข้อตกลงกับกระดานเทรดคริปโตชั้นนำของประเทศ 5 แห่ง เพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับการสอบสวนคดีอาชญากรรมเกี่ยวกับคริปโตและสร้างสภาพแวดล้อมการเทรดที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน

ปัจจุบัน มีผู้ดำเนินการสินทรัพย์ดิจิตอลที่จดทะเบียน 36 แห่งในเกาหลีใต้ และมีชาวเกาหลีใต้ 6.9 ล้านคนเทรดหรือถือครองคริปโตบนแพลตฟอร์มในประเทศ

ที่อเมริกา เดือนกันยายนปีที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมได้จัดตั้งเครือข่ายผู้ประสานงานสินทรัพย์ดิจิตอลที่ประกอบด้วยอัยการของรัฐบาลกลาง 150 คน เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมที่ใช้เทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิตอลและมีพัฒนาการอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ขณะเดียวกัน ต้นเดือนที่ผ่านมา เชนนาไลซิส บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลคริปโต ประเมินว่า การทำธุรกรรมผิดกฎหมายทั่วโลกในปี 2022 มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 20,100 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 14,000 ล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า