ในอาชีพสื่อมวลชนเกือบ 50 ปี มีเรื่องที่ผิดหวังอยู่ 2 เรื่องใหญ่คือ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมให้มีความสงบสุข มีความเท่าเทียมและมีความยุติธรรมตามอุดมการณ์ที่ยึดมั่นได้
ส่วนอีกเรื่องคือ ไม่สามารถสร้างนักข่าวที่ดี มีคุณธรรม ยึดมั่นในอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ ยืนหยัดในจุดยืนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่
ในชีวิตผ่านการอมรม ปลูกฝังจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อให้นักข่าวใหม่มาหลายรุ่น รวมแล้วนับร้อยชีวิต
นักข่าวใหม่ทุกรุ่นจะทุ่มเทถ่ายทอดประสบการณ์การฝึกฝนขัดเกลา ทั้งการเขียนข่าว ทั้งความตระหนักในศักดิ์ศรีการเป็นฐานันดรที่ 4 ซึ่งต้องยืนอยู่บนความถูกต้อง และยืนเคียงข้างประชาชน ไม่ก้มหัวให้คนเลว ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ไม่รับสินบนใดๆ ไม่รับหุ้นจอง
การทุ่มเทเวลา แรงกายและแรงใจในการฝึกฝน อบรมและปลูกฝังนักข่าวใหม่ตลอดเวลาหลายสิบปี เพราะต้องการให้นักข่าวรุ่นน้องๆ เป็นนักข่าวที่ดี มีความสามารถ มีอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง และเป็นสื่อมวลชนรุ่นใหม่ที่มีความภาคภูมิใจในวิชาชีพ พร้อมทำหน้าที่รับใช้สังคม
นักข่าวใหม่บางคนจบการศึกษามาหมาดๆ ไม่มีประสบการณ์การทำงาน เขียนข่าวไม่เป็น อ่านไม่รู้เรื่อง นำเสนอไม่ได้ ต้องเคี่ยวเข็ญ ประกบติดอบรมบ่มเพาะกันเป็นปีๆ จึงเริ่มเขียนข่าวได้
นักข่าวใหม่นับร้อยที่เคยอบรมฝึกฝนบ่มเพาะมา ส่วนใหญ่เป็นนักข่าวสายการลงทุนและสายตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันหลายคนเป็นเจ้าของสื่อหุ้น เป็นบรรณาธิการสื่อหุ้น หรือเป็นหัวหน้าข่าว
แต่บางคนกลายเป็นผู้หิวกระหายในผลประโยชน์ ใช้คราบความเป็นสื่อหากิน วางตัวเป็นเจ้าแม่นักข่าวสายหุ้น รับหุ้นจองทั่วราชอาณาจักร ใครไม่จัดสรรโควตาให้ จะวางตัวเป็นอันธพาลหาเรื่องโจมตี
และทำตัวกร่าง ระรานคนในแวดวงตลาดหุ้น ถ้าโทรศัพท์หาแหล่งข่าวคนใดแล้วแหล่งข่าวไม่ยอมรับสาย หรือไม่โทร กลับ จะอาฆาต ประกาศหาเรื่องด่า ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่บัดซบ
บางคนทำตัวเป็นสุนัขรับใช้ พร้อมเป็นกระบอกเสียงให้ใครก็ได้ที่จ่ายเงินโฆษณาสนับสนุนเพียงเดือนละไม่กี่หมื่นบาท และพร้อมจะโจมตีฝ่ายตรงข้ามกับผู้จ่ายเงินค่าโฆษณาฟาดหัว โดยไม่สนใจว่าข้อมูลที่นำเสนอโจมตีเป็นข้อมูลที่บิดเบือนและเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่
นักข่าวสายหุ้นลูกน้องเก่าบางคนเดินตามตูดนักลงทุนขาใหญ่หลายคน รวมทั้งเสี่ยหมอ และนักลงทุนขาใหญ่ที่มีพฤติกรรมเล่นแร่แปรธาตุในตลาดหุ้น หลอกต้มนักลงทุนรายย่อย เหมือนสุนัขเชื่องๆ ที่พร้อมจะเห่าเพื่อปกป้องเจ้านาย ซึ่งโยนเศษเงินมาให้แลกกับการเขียนข่าวเชียร์หุ้น หรือเขียนข่าวปกป้องและแก้ต่างแทนนักลงทุนขาใหญ่
การสวมคราบความเป็นสื่อหุ้นหากินไม่เลือก รับเงินที่เช้าข่ายการติดสินบน เช่นการรับหุ้นจอง ซึ่งผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไม่มีความยางอาย ทำให้ลูกน้องเก่าบางคนมีเงินนับร้อยล้านบาท ซื้อบ้านราคาเป็นสิบล้านบาทได้อย่างสบาย
แต่การรับใช้คนที่จ่ายเงินฟาดหัวอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ทั้งเป็นคนที่สังคมแวดวงตลาดหุ้นไม่มีใครคบค้า เพราะชอบระรานคนอื่น ชอบสร้างข้อมูลบิดเบือน ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ โดยทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแก้ต่างให้ นำข้อความโฆษณาชวนเชื่อมาลงทั้งดุ้น และโจมตีใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม แต่หารู้ไม่ว่า ข้อความที่นำเสนอเข้าข่ายการละเมิด
แต่ความฮึกเหิมคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าแม่ตลาดหุ้น สันดานการเป็นสุนัขรับใช้ พร้อมเป็นกระบอกเสียงให้ใครก็ได้ที่ให้ผลประโยชน์ กำลังนำพาสื่อหุ้นบางสำนักไปสู่คดีความ
ในฐานะคอลัมนิสต์หุ้นที่ต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบในตลาดหุ้น ไม่ยอมก้มหัวให้นักปั่นหุ้น ไม่ยอมเป็นสุนัขรับใช้คนเลว รางวัลที่ได้ในขณะนี้คือ ถูกฟ้องรวมประมาณ 13 คดี ชนะโดยศาลตัดสินยกฟ้องไปแล้ว 5 คดี เหลืออีก 8 คดี ย่อมมั่นใจว่าจะชนะ
เพราะทุกเนื้อหาในคอลัมน์ที่เขียนเป็นไปตามข้อเท็จจริง บนพฤติกรรมที่เป็นจริงของคนที่เขียนถึง
คดีที่เหลืออีก 8 คดี ถูกฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งสามารถเจรจาประนีประนอมถอนฟ้องกันได้ แต่คดีที่มีความผิดร้ายแรง มีบทลงโทษสูง ไม่อาจเจรจาประนีประนอมถอนฟ้องได้
การจะมีใครไปโดยกล่าวอ้างการนำคดีความผิดร้ายแรงมาต่อรองกับคดีหมิ่นประมาท จึงเป็นเพียงเรื่องที่คิดฝันขึ้นมาเอง และกุเรื่องแหกตา เพื่อกลบเกลื่อนความผิดตัวเอง
เป็นคอลัมนิสต์หุ้นที่ยืนหยัดในความถูกต้อง ยึดผลประโยชน์ของนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง การถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเป็นเรื่องปกติ และยอมรับได้ เพราะเป็นวิถีชีวิตการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่เลือกแล้ว
13 คดีที่ถูกฟ้อง และ 5 คดีที่ชนะ ไม่เคยคิดฟ้องกลับใคร แต่วันนี้คงต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ ต้องปกป้องสิทธิตัวเองบ้างละ สนองตัณหาพวกจิตไม่ปกติที่ชอบค้าความเสียที