เอสซีฯ แจงถูกร้องเรียน-กล่าวหา ร่วมกันกระทำนิติกรรมอำพรางซื้อที่ดิน

นายสมบูรณ์ คุปติมนัส เลขานุการบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 กรณีบริษัทฯ ถูกร้องเรียนและกล่าวหาร่วมกันทำนิติกรรมอำพรางว่า ตามที่นายศรายุทธ รัตนพันธ์ น.ส.ลัดฟ้า รัตนพันธ์ และ น.ส.ฐานิตา ศิวธานนท์ หรือรัตนพันธ์ ได้ร่วมกันมีหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี และร่วมกันออกสื่อสัมภาษณ์ในรายการ TOP NEWS TALK เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565

รวมถึงปัจจุบันได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีเนื้อหาใจความกล่าวหาว่า 

"บริษัท SC โดยผู้บริหารของบริษัทได้ร่วมกันกระทําการทุจริต อันเนื่องมาจากการไม่รับซื้อที่ดินที่กลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์เสนอขาย ทำให้สูญเสียเงิน 200 ล้านบาท และบริษัท SC ได้ร่วมกันนำนิติกรรมอําพรางไปฟ้องศาลแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ มย 66/2563 กล่าวหาเด็กอายุ 23 ปี เพิ่งจบการศึกษาขอกู้เงินจากบริษัท SC 20 ล้านบาท และถูกฟ้องแย้งเป็นเงิน 1,503 ล้านบาทเศษ ซึ่งข้อกล่าวหาทั้งหมดที่นายศรายุทธ รัตนพันธ์ และพวกกลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์ กล่าวหาบริษัท SC มาทั้งหมดนั้นเป็นความเท็จทั้งสิ้น และอาจกระทำให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนและตราสารหนี้ของบริษัทเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนได้

บริษัท SC ขอเรียนชี้แจงให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงผู้ถือหุ้นและนักลงทุนรับทราบข้อเท็จจริงว่า บริษัท SC ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศรายุทธ รัตนพันธ์ เป็นจำเลยที่ 1 และ น.ส.ลัดฟ้า รัตนพันธ์ เป็นจำเลยที่ 2 ต่อศาลแพ่ง ในคดีแพ่งคดีหมายเลขดำที่ มย 66/2563 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ฐานความผิดกู้ยืมเงิน 20 ล้านบาท อันเนื่องมาจากบุคคลทั้งสองทำบันทึกข้อตกลง ฉบับวันที่ 3 เมษายน 2561 เสนอขอรวบรวมที่ดินบุคคลอื่นมาเสนอขายบริษัท SC ภายในกำหนดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยขอกู้ยืมเงินของบริษัท SC จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้จ่ายเพื่อการรวบรวมที่ดินนำมาขายบริษัท SC

ซึ่งทั้งหมดมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรลงนามโดยบุคคลทั้งสองที่ถูกบริษัท SC ฟ้อง เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการรวบรวมที่ดิน บุคคลทั้งสองไม่สามารถรวบรวมที่ดินนำมาเสนอขายบริษัท SC ได้ตามเงื่อนไขข้อตกลง บริษัท SC จึงทวงถามเงินกู้ยืมคืนแต่เพิกเฉย จึงเป็นที่มาของบริษัท SC เป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่ง เรียกเงิน 20 ล้านบาทคืนดังกล่าว ปัจจุบันฝ่ายจำเลยได้ยื่นคําให้การแก้ต่างและฟ้องแย้งในคดีเรียกค่าเสียหาย จำนวน 1,503 ล้านบาทเศษ กล่าวหาว่าสัญญากู้ยืมเงินเป็นนิติกรรมอําพราง ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลแพ่ง

อีกทั้งบริษัท SC ได้ฟ้องคดีนายศรายุทธ รัตนพันธ์ กับพวกครอบครัวรัตนพันธ์ เป็นความผิดทางอาญาที่ศาลอาญา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2986/2563 ข้อหาความผิดบุกรุกและหมิ่นประมาท ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีมีมูล ขณะนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาลอาญา

บริษัท SC ใคร่ขอเรียนว่า ข้อร้องเรียนอันเป็นเท็จของกลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์ เคยร้องเรียนบริษัท SC ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเรื่องดังกล่าวนี้ และสำนักงาน ก.ล.ต. มีหนังสือที่ ก.ล.ต.จท-2.616/2565 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2565 ให้บริษัท SC ชี้แจง โดยบริษัท SC ได้ชี้แจงสำนักงาน ก.ล.ต.จนเป็นที่เข้าใจยุติเรื่องแล้ว แต่นายศรายุทธ รัตนพันธ์ กับพวกยังไม่ยุติการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท จึงจำเป็นต้องชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้ถือหุ้นบริษัทและนักลงทุน รวมถึงสถาบันการเงินได้รับทราบข้อมูลเพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง อันอาจกระทบต่อหลักทรัพย์จดทะเบียนและตราสารหนี้ของบริษัท"