xs
xsm
sm
md
lg

บล.พาย สัปดาห์นี้เน้น Laggard Play เกาะติด กนง.-บจ.แจ้งงบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บล.พาย (Pi) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว SET สัปดาห์นี้ที่ 1,650-1,685 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุนเช่นเดิมเพราะยังเสี่ยงกับภาวะถดถอยช่วงถัดไป

ทั้งนี้ ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปรับขึ้น 1% ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Tech ใน Nasdaq หลังจาก Netflix รายงานสมาชิกที่สูงขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้น 1.7% รับแรงหนุนจากการเปิดเมืองของจีนหนุนอุปสงค์

สัปดาห์นี้เชื่อว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับ

(1) ในคืนวันอังคารจะมีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคผลิตของฝั่ง EU ซึ่งตลาดคาดการณ์ระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงภาคการผลิตที่ยังหดตัว มองเป็นลบต่อหุ้นที่มีรายได้ใน EU (KCE TU)

(2) ในคืนวันพฤหัสบดีจะมีการรายงานยอดบ้านมือหนึ่งของสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินที่ 6.12 แสนหลังคาเรือน พร้อมกับคำสั่งซื้อสินค้าคงแทน Bloomberg ประเมินไว้ที่ 2.4%MoM

ส่วนในประเทศจะเน้นไปที่

(1) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธ คาดทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงบ่าย Bloomberg ประเมินไว้ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทดสอบระดับ 1.5%

(2) ภาวะการค้าระหว่างประเทศประจำเดือน ธ.ค. ในวันอังคาร Bloomberg คาดมูลค่าส่งออกหดตัว 9.6%YoY และนำเข้าหดตัว 8%YoY พร้อมประเมินดุลการค้าจะขาดดุลราว 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หากการส่งออกยังหดตัวตามที่ตลาดประเมินไว้ เท่ากับว่าหดตัวติดต่อกันมาแล้วราว 3 เดือน ยิ่งสะท้อนถึงภาพเศรษฐกิจโลกที่กำลังอ่อนแรง และสอดคล้องกับที่แต่ละธนาคารพาณิชย์รายงานใน MD&A ถึงความกังวลเศรษฐกิจถดถอย

(3) การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Q4/65 Bloomberg ประเมินว่าในสัปดาห์นี้จะมี SCGP SCC PTTEP หากรายงานต่ำกว่าตลาดประเมินไว้สูงจะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นและ SET ส่วนการตั้งสำรองของกลุ่ม Bank ในการรายงานผลประกอบการ Q4/65 มองเป็นปัจจัยเสี่ยงช่วงถัดไปเนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยช่วงระยะถัดไปอาจเผชิญกับความเสี่ยงของการอ่อนแรงจากเศรษฐกิจโลกและสอดคล้องกับภาคผลิตทั่วโลกที่ปัจจุบันเริ่มอ่อนแรงลง

สำหรับหุ้นแนะนำสัปดาห์นี้เน้นที่ Laggard Play ที่ Valuation ยังไม่แพงมาก เช่น สื่อสาร (ADVANC INTUCH) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF RATCH) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SHR SPA) โรงพยาบาล (BCH BDMS CHG) น้ำมัน (PTTEP)

CPN (ถือ/ราคาเป้าหมาย 76.00 บาท) ช่วง Q4/65 ในแง่รายได้คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลดีของฤดูท่องเที่ยวและการรับรู้รายได้จากโรงแรมใหม่เต็มไตรมาส แต่ในแง่กำไรสุทธิเราคาดว่าจะอ่อนตัวลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่จะเพิ่มขึ้น เบื้องต้นเราคาดกำไรอยู่ที่ระดับ 2,500 ล้านบาท และทำให้กำไรทั้งปี 65 อยู่ที่ระดับ 10,515 ล้านบาท (+47%YoY) ส่วนปี 66 คาดกำไรจะขยายตัว 11%YoY

PTTEP (ถือ/ราคาเป้าหมาย 175.00 บาท) แนะนำ Trading ระยะสั้นเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง โดยช่วง 20 วันที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้นมากว่า 11% เป็นปัจจัยบวกต่อ PTTEP อย่างไรก็ตาม แนะนำเพียงระยะสั้นเนื่องจากคาดกำไรปี 66 จะลดลง 13.5%YoY


กำลังโหลดความคิดเห็น