xs
xsm
sm
md
lg

SET INDEX ร้อนแรงไม่เลิก ปิด +13.92 จุด เศรษฐกิจฟื้น-ท่องเที่ยวหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยร้อนแรงต่อเนื่องไม่เลิกหลายวันติดต่อกัน วันนี้ยังปิดพุ่ง +13.92 จุด โบรกฯ เผย SET INDEX รับอานิสงส์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว แม้วอลุ่มการซื้อขายไม่มาก มองแนวโน้มวันพรุ่งนี้เทรดวันสุดท้ายของปี 65 ยังแกว่งตัวในทิศทางบวก แต่อาจไม่แรงมากนักประเมินแนวต้านที่ 1,670 จุด และแนวรับที่ 1,650 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 29 ธ.ค.2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 13.92 จุด หรือ +0.85% โดยปิดตลาดที่ 1,661.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,917.82 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ และปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงท้ายก่อนปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 1,662.07 จุด ขณะที่ในทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,642.48 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 853 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 574 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 584 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +8,444.71 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +201.56 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -6,911.04 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,735.22 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,492.71 ล้านบาท ปิดที่ 722.00 บาท เพิ่มขึ้น 18.00 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,004.96 ล้านบาท ปิดที่ 32.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,918.12 ล้านบาท ปิดที่ 76.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,829.75 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,362.94 ล้านบาท ปิดที่ 68.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 216.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.41%
2.SCC ปิดที่ 344.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 0.88 %
3.ADVANC ปิดที่ 196.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาทหรือ 1.03%
4.EA ปิดที่ 97.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาทหรือ 1.83%
5.AEONTS ปิดที่ 182.00 บาท เพิ่มขึ้น1.50 บาทหรือ 0.83%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BCP ปิดที่ 31.00 บาท ลดลง 0.75 บาทหรือ 2.36%
2.CENTEL ปิดที่ 50.25 บาท ลดลง 0.50บาท ลดลง 0.99%
3.KEX ปิดที่ 18.50 บาท ลดลง -0.40บาท ลดลง 2.12%
4.SPRC ปิดที่ 10.90บาท ลดลง 0.20บาท ลดลง 1.80%
5.DOHOME ปิดที่ 14.70บาท ลดลง 0.10บาท ลดลง 0.68%

ขณะเดียวกันดัชนี SET100 ปิดที่ 2,268.16 จุด เพิ่มขึ้น 20.82 จุด หรือ 0.93% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,010.19 จุด เพิ่มขึ้น 9.65 จุด หรือ 0.96% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 585.08 จุด เพิ่มขึ้น 9.09 จุด หรือ 1.58%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ดีจากแรงเก็งกำไร แม้ว่ามูลค่าซื้อขายเบาบางช่วงใกล้วันหยุดยาวปีใหม่ และวันนี้เป็นวันสุดท้ายเปลี่ยนซีรีย์ตลาด Futures ทำให้ปลายตลาดกระตุกขึ้นมาแรง โดยมีปัจจัยบวกหลักมาจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจในเดือน พ.ย.65 บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวมาช่วยหนุน และดัชนีการบริโภคภาคเอกชนก็มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น แต่การส่งออกแผ่วลง รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนด้วย

นอกจากนี้ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย.วันนี้ ที่สะท้อนภาพของการค่อยๆ ฟื้นตัว ช่วยหนุนโมเมมตัมตลาดในวันนี้ แม้ว่าตลาดต่างประเทศต่างได้รับแรงกดดันจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาดก็กังวลว่าโควิดอาจจะกลับมารุนแรง ซึ่งหลายประเทศได้ออกมาตรการควบคุมนักท่องเที่ยวจากจีนกันแล้ว

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันซื้อขายสุดท้ายของปี 65 คาดว่าตลาดน่าจะแกว่งตัวในทิศทางบวกโดยมองว่าตลาดหุ้นโดยรวมจะมีแรงหนุนต่อเนื่องจากปัจจัยบวกที่รออยู่ ทำให้คนกล้าถือหุ้นข้ามปี แนะนำ “ถือ” หุ้นพื้นฐานดีที่สามารถถือข้ามปีได้ โดยมองแนวต้านที่ 1,670 จุด และแนวรับที่ 1,650 จุด นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้คาดว่ากองทุนจะปรับพอร์ตรับ SET50 และ SET100 Rebalancing ซึ่งจะส่งผลในต้นปีหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น