โปรเอ็น คอร์ป ลงนามสัญญาซื้อขายเครื่องทดสอบและพัฒนาชิ้นส่วนทดแทนระบบรางและล้อเลื่อน มูลค่ากว่า 44.90 ล้านบาท กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หนุน Backlog พุ่งแตะ 684 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าผลักดันธุรกิจสร้าง S-curve ใหม่ เป็นผู้ขายและให้การดูแลเครื่องมือด้านเทคโนโลยีของไทย
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) (PROEN) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาในนามของ “กิจการค้าร่วมโปรเอ็นและโทเทิ่ล” เพื่อซื้อขายเครื่องทดสอบและพัฒนาชิ้นส่วนทดแทนระบบรางและล้อเลื่อน กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย มูลค่าสัญญา 44,900,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอากรอื่นแล้ว) โดยมีระยะเวลาส่งมอบภายในวันที่ 12 สิงหาคม 2566
“การได้รับงานจำหน่ายเครื่องทดสอบและพัฒนาชิ้นส่วนทดแทนระบบรางและล้อเลื่อนในครั้งนี้ ถือเป็นการนำเทคโนโลยีด้านเครื่องสร้างชิ้นส่วนงานโลหะ ด้วยเทคโนโลยีใหม่รูปแบบการสร้างชิ้นงานแบบ 3D ที่รวดเร็ว ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำแม่พิมพ์ชิ้นส่วนโลหะ รวมถึงการให้คำแนะนำ และการบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้าเลือกที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ผลักดันให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็น 684 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2566 และในปีนี้จะรับรู้รายได้กว่า 30% ของ Backlog สนับสนุนให้ผลงานปีนี้ เติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้มาก”
สำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยี และงานก่อสร้างด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ PROEN ยังมีการขยายตัวและพัฒนาต่อเนื่อง พร้อมขยายศักยภาพสร้างศูนย์ข้อมูล Internet Data Center แห่งใหม่ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเสร็จและสามารถสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ได้ในช่วงปลายปีหน้า รองรับความต้องการของลูกค้าในปี 2567 ซึ่งจะช่วยสนับสนุน และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROEN กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานของปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเดินหน้าสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เข้าประมูลงานด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยคาดว่าจะได้รับงานเพิ่มไม่น้อยกว่าปีก่อน จากการประมูล และวางกลยุทธ์สร้างการเติบโตโดยกำลังศึกษาวิธีการควบรวมและเข้าซื้อกิจการ หรือ Mergers and Acquisitions (M&A) ต่อยอดจากธุรกิจเดิม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นในอนาคต