หุ้นบริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ NATION ขึ้นเครื่องหมาย XR ไปแล้ว หมายถึงผู้ซื้อไม่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน และราคาหุ้นได้ปรับฐานลงตามสิทธิที่นักลงทุนได้รับ โดยล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาปิดที่ 19 สตางค์ ซึ่งจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อหุ้น
แต่ถึงเวลาที่ต้องชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน ระหว่างวันที่ 19-25 มกราคม 2566 น่าจับตาว่า ผู้ถือหุ้นเดิมทั้งรายใหญ่ และรายย่อยจะใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาครบถ้วนตามสิทธิที่ได้รับจากการจองซื้อหุ้นหรือไม่
คณะกรรมการ NATION มีมติเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประกาศเพิ่มทุน นำหุ้นใหม่จำนวน 8,135.94 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.53 สตางค์ เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 9 สตางค์
และแจกฟรีใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 4 หรือวอร์แรนต์รุ่นที่ 4 ในสัดส่วน 3 หุ้นใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์ ซึ่งมีอายุ 2 ปี กำหนดแปลงสภาพ1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ ในราคาแปลงสภาพ 25 สตางค์ เพื่อจูงใจให้นักลงทุนใช้สิทธิ
NATION เป็นหุ้นที่มีค่าพี/อี เรโชต่ำมาก หรืออาจต่ำที่สุดในจำนวนหุ้นกว่า 1,000 บริษัท เพราะค่าพี/อี เรโช อยู่ที่ 1.66 เท่า เนื่องจากกำไรในงวด 9 เดือนแรกปีนี้เติบโตก้าวกระโดด แต่เป็นกำไรที่เกิดจากการขายทรัพย์สิน ไม่ได้เกิดจากผลการดำเนินงาน
ถ้ากำไรเกิดจากผลดำเนินงาน ราคาหุ้นคงพุ่งทะยานไปแล้ว
งวด 9 เดือนแรก NATION มีกำไรสุทธิ 429.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 128.95 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการขายบริษัทย่อย หรือบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ NBC จำนวน 457.76 ล้านบาท
ผลประกอบการ NATION ขาดทุนติดต่อหลายปี มียอดขาดทุนสะสมสุทธิ 2,924.22 ล้านบาท และถูกแขวนเครื่องหมาย C เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนเพื่อนำเงินใช้เป็นทุนหมุนเวียน ชำระหนี้เงินกู้ และลงทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดธุรกิจหลักของบริษัทฯ
โจทย์ใหญ่ของผู้ถือหุ้นที่จะเติมเงินให้ NATION คือ แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจะฟื้นตัว และพลิกกลับมามีกำไรหรือไม่
ถ้าเทียบราคาหุ้นบนกระดานล่าสุดอยู่ในระดับที่จูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิเติมเงินใส่เข้าไปใน NATION เพราะหุ้นใหม่เสนอขายในราคาเพียง 9 สตางค์เท่านั้น แถมแจกวอร์แรนต์จูงใจอีกต่างหาก
แต่ราคาบนกระดานที่ 19 สตางค์ จะยืนได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ และเมื่อหุ้นใหม่อีกจำนวน 2 เท่าตัวจากจำนวนหุ้นเดิมเข้ามาซื้อขายประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ถึงตอนนั้นราคาหุ้น NATION บนกระดานจะเคลื่อนไหวอยู่ระดับใด
ถ้าลูกหุ้นหรือหุ้นเพิ่มทุนเข้ามา ราคาหุ้น NATION ยืนอยู่แถวๆ 19 สตางค์ได้ ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนคงรวยกันหมด แต่ถ้าเติมเงินเพิ่มทุนแล้วราคาหุ้นบนกระดานรูดลง และหากรูดลงต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขาย
ผู้ถือหุ้นเดิมที่เติมเงินใส่ NATION “จนลง” ถ้วนหน้าเหมือนกัน
ผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกถือหุ้นรวมกันประมาณ 60% ของทุนจดทะเบียน โดย น.ส.อรอร อัครเศรณี ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง สัดส่วน 10.08% ของทุนจดทะเบียน บริษัท ชิทลม จำกัด ถือหุ้น 9.99% นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น ถือหุ้นสัดส่วน 5.23% โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 5,769 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 50.83%
ผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกจะใส่เงินเพิ่มทุนครบถ้วนตามสิทธิหรือไม่ โดยเฉพาะนายสุทธิชัย ซึ่งแม้จะอยู่ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท แต่ปัจจุบันไม่มีส่วนร่วมในการบริหารใดๆ
ถ้านายสุทธิชัย เติมเงินให้ NATION แสดงว่า มีความเชื่อมั่นในคณะผู้บริหารบริษัทชุดใหม่
ส่วนนักลงทุนรายย่อยอาจรอประเมินสถานการณ์ราคาหุ้นบนกระดาน และรอชั่งน้ำหนักการตัดสินใจครั้งสุดท้ายในวันที่ต้องใช้สิทธิจองซื้อหุ้นใหม่คือ ประมาณปลายเดือนมกราคมปีหน้า
การเพิ่มทุนครั้งนี้ถ้าผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจองซื้อหุ้นกันครบถ้วน จะระดมเงินได้กว่า 700 ล้านบาท ทำให้ NATION หายใจคล่องไปอีกเฮือกใหญ่
แต่คณะผู้บริหาร NATION จะสมหวังกับเงินก้อนโตที่จะนำไปต่อยอดหรือไม่ ปลายเดือนหน้าได้รู้กัน